วันที่ 21 มิ.ย.2567 เวลา15.20น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน3.75 ล้านล้านบาท วาระแรก เป็นวันสุดท้าย
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเป็นคนสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ว่า สิ่งที่เห็นวันนี้ทำให้เราต้องผิดหวังอีกครั้ง เพราะงบฯปี68 เป็นงบฯตั้งหน้าตั้งตากู้เงินมาแจก สร้างหนี้ให้ประเทศ แต่กลับเมินเฉยต่อความเดือดร้อนประชาชน รัฐบาลจัดทำงบฯแบบดันทุรัง งบฯปีนี้ 3.75ล้านล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว7.8เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประมาณการรายได้จากรัฐบาลอยู่ที่2.88ล้านล้านบาท ส่งผลให้เราจะต้องกู้เพื่อมาชดเชยการขาดดุลถึง 8.65 แสนล้านบาท ถือเป็นการตั้งงบฯที่ขาดดุลหรือเกินจากรายได้ไปสูงเกือบชนเพดาน
นอกจากนี้หนี้สาธารณะยังเพิ่มขึ้นถึง11ล้านล้านบาท คิดเป็น65เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปถึง70เปอร์เซ็นต์ ส่วนงบฯรายจ่ายประจำอยู่ที่2.7ล้านล้านบาท จะเห็นว่าใกล้เคียงกับรายได้รัฐบาลที่2.88ล้านล้านบาท นั่นทำให้รัฐบาลต้องตั้งงบฯขาดดุล หรือต้องกู้อย่างต่อเนื่อง
นายร่มธรรม กล่าวต่อว่า ขณะที่งบฯกลาง จำนวน5.49แสนล้านบาท ที่บางพรรคที่เคยเป็นฝ่ายค้านเคยชิงชังว่าตรวจสอบยาก ส่อเกิดทุจริต และควรเป็นงบฯที่ใช้กรณีฉุกเฉินเท่านั้น แต่วันนี้รัฐบาลกลับใช้งบฯกลางเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเรื่องของตัวเอง โดยเฉพาะงบฯค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวน 1.52 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีปัญหามาตั้งแต่เริ่ม ทำให้งบฯขาดดุลพุ่งไปไกลมากกว่า5แสนล้านบาท ตนไม่อยากเชื่อว่านี่คือฝีมือของนักบริหารธุรกิจ ที่บอกว่าจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ แต่เท่าที่ดูคือการก่อมรสุมเงินกู้ที่จะโปรยหนี้ให้ท่วมกันถ้วนหน้า เพราะประชาชนต้องแบกรับภาระหนี้ทั้งต้นและดอก จากนโยบายเรือธง กลายเป็นนโยบายเรือเกลือ และเรือล่มในที่สุด
“เราเห็นเพียงแต่ความพยายามที่จะทำแต่ดิจิทัลวอลเล็ตให้เกิดขึ้นได้ โดยไม่สนใจคำท้วงติงต่างๆ เมื่อดูจากการจัดสรรงบฯ ผมคิดว่าเรือลำนี้ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นกัปตันน่าจะพาเราไปไม่ถึงฝั่ง เพราะไม่สามารถอุดรูรั่วปัญหาของประเทศได้ และกัปตันเรือเองน่าจะเอาตัวไม่ค่อยรอด ดังนั้นเราจะจดจำและจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทยว่างบประมาณปี68คืองบฯแห่งการกู้ รัฐบาลนี้คือรัฐบาลแห่งการก่อหนี้ รัฐบาลเสดสา ทวีหนี้สิน” นายร่มธรรม กล่าว