คลังเผยความคืบหน้าช่วยเหลือผู้ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ธนาคารออมสิน-ธ.ก.ส. รับไกล่เกลี่ยแล้ว 13,085 ราย วงเงิน 617 ล้านบาท
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าประจำสัปดาห์การดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลังว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยได้แถลงนโยบายเพื่อยกระดับให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว
โดยในส่วนของกระทรวงการคลังได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินผ่านมาตรการสินเชื่อต่างๆได้แก่ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ และสินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน รวมถึงมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566)โดยผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งสองแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 21 มิถุนายน 2567 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วจำนวน 13,085 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 617.44 ล้านบาท โดยจำนวนประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน (14 มิถุนายน 2567) จำนวน 332 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 และเป็นยอดอนุมัติที่เพิ่มขึ้น 12.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.04
นอกจากนี้ รัฐบาลได้จัดให้มีกิจกรรม “ตลาดนัดแก้หนี้” ในเขตกรุงเทพมหานคร ตลอดเดือนมิถุนายน 2567 โดยมีกิจกรรมภายในงาน ได้แก่ การไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ระหว่างเจ้าหนี้นอกระบบและลูกหนี้นอกระบบ การทำบันทึกข้อตกลงประนอมหนี้ และยุติข้อพิพาท การให้คำปรึกษาและจัดหางาน การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การแนะนำและฝึกอาชีพ รวมถึงการให้คำแนะนำปรึกษาทางการเงินแก่ลูกหนี้นอกระบบที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งสองแห่ง ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทุกมิติอย่างครบวงจร
สำหรับเจ้าหนี้นอกระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืนตามที่กล่าวข้างต้น กระทรวงการคลังได้ส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย สำหรับนิติบุคคลที่สนใจประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถดูข้อมูลการยื่นคำขออนุญาตได้ที่ www.1359.go.th หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1359 ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้สนใจโทรสอบถามสายด่วน 1359 เกี่ยวกับรายละเอียดการขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในส่วนของผลการดำเนินการเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 มีนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 1,143 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,241,350 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 41,015.45 ล้านบาท ซึ่งประชาชนที่สนใจขอกู้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ทั้ง 75 จังหวัดได้ที่ www.1359.go.th
#หนี้นอกระบบ #ข่าววันนี้ #ออมสิน #สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์