วันที่ 21 มิ.ย.67 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ปรึกษากรรมาธิการแรงงาน ได้ให้สัมภาษณ์ทีวีช่องนึง กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญพยายามจะดึงให้คดีทางการเมืองค่อย ๆ เป็นไปทีละคดี หากตัดสินในวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมารวดเดียวบ้านเมืองจะเดินลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรคก้าวไกล หรือคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ศาล รธน.ก็ปล่อยให้สู้เต็มที่ เพื่อทำความจริงให้กระจ่างออกมา และไม่ทำให้สังคมรู้สึกว่า มีการกลั่นแกล้งพรรคก้าวไกล และศาลก็ไม่เอาตัวเองลงไปเป็นคู่ขัดแย้ง ซึ่งวันนี้ กกต.ก็ส่งหลักฐานที่เป็นคำวินิจฉัยว่า การแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครอง โดยพรรคก้าวไกลได้อภิสิทธิ์มากกว่าพรรคการเมืองอื่นในอดีตที่ถูกยุบ โดยได้เวลาชี้แจง แก้ข้อกล่าวหามาโดยตลอด จะเห็นได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่เร่งรัดคดี ใช้เวลายืดออกไป เพราะถ้าเร่งรัดคดีจะทำให้เกิดความเสียหายได้ เหมือนในกลยุทธ์ ในสมัยชุนชิว แคว้นหลู่กับแคว้นฉี ทำศึกกัน ทีแรกหลู่จวงกุง เจ้าผู้ครองแคว้นหลู่จะออกรบโดยไม่รอให้กองทัพแคว้นฉีอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่แล้วถูกเฉากุ้ยยับยั้งไว้ และใช้เข็มมุ่งที่ว่า “ข้าศึกเพลียเราตี” ก็ได้รบชนะกองทัพแคว้นฉี ดังนั้นทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล จะยื้อดึงให้นาน จนพรรคก้าวไกลคิดว่าไม่ยุบแล้ว แล้วค่อยยุบพรรค... คดีพิจารณาคุณสมบัตินายกฯ ก็ยังไม่จบในเดือนกรกฏาคมนี้อย่างแน่นอน

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการที่คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ประกันตัวในคดี 112

มันก็ทำให้พรรคเพื่อไทยหมดห่วง เพราะทุกคนก็คิดว่าคุณทักษิณจะไปแสดงตัวหรือไม่ ถือว่าสง่างาม ทั้งนี้ต้องชื่นชมคุณทักษิณที่เข้ากระบวนการยุติธรรม แต่ประเด็นมันกลายเป็นว่า การเมืองเป็นสามก๊ก 1.ก๊กเพื่อไทย โดย คุณทักษิณ 2.พรรคก้าวไกล และ ก๊กที่ 3 คือ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ เมื่อก่อนเรามองว่า 2 พรรคนี้อาจจะจับมือกัน แต่ตอนนี้ก้าวไกลต้องเล่นบทตีจากพรรคเพื่อไทย พูดง่าย ๆ พรรคเพื่อไทยคือศัตรู เพราะเด็กทั้งหมดที่อยู่ในเรือนจำในคดีมาตรา 112 พยายามจะขอประกันตัวแบบตีเหมา ทำให้แกนนำพรรคก้าวไกลออกมาพูดเรื่องนี้มาก

จะพุ่งเป้าไปที่ กระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐานใช่หรือไม่ เพื่อให้สังคมมาเป็นแนวร่วม

“ทันทีที่ยุบพรรคก้าวไกล สมการการเมืองจะเปลี่ยนทันที เพราะเมื่อแม่ทัพตาย ทัพแตก เมื่อแม่เป็ดหาย ก็จะมีเป็ดหลงทางจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น พรรคพลังประชารัฐมี 40 คน สส.ก้าวไกลไปเติมอีก 20 คน หรือไปพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย รัฐบาลเพื่อไทยจะมีแรงกระเพื่อม การต่อรองในเรื่องของโควต้ารัฐมนตรีทันที ดังนั้นพรรคก้าวไกลคือนาฬิกาทราย ถ้าพรรคก้าวไกลถูกยุบไปแล้วไปเติมให้พรรคอนุรักษ์นิยม ถึงจะงัดกับคุณทักษิณได้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยคงต้องจับมือกับ พปชร.และ รทสช.เพื่อเป็นอำนาจต่อรองกับพรรคเพื่อไทยได้“นายสามารถ กล่าว