วันที่ 21 มิ.ย.2567 เวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ โดยมีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง หน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เป็นจำนวน 272,700 ล้านบาท วาระแรก วันสุดท้าย

นายชัยชนะ เดชเดโช  สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า รัฐบาลจัดงบประมาณปี2568 เหมือนเป็นนักวิ่งราวทรัพย์ เพราะกู้เงินวงเงินสูงเพื่อมาแจกประชาชน และบอกว่าเป็นผลงานของตัวเอง ทั้งนี้กู้แล้วแจกให้ประชาชนถือว่ามีจิตสำนึก หากกู้แล้วเก็บไว้เอง เท่ากับปล้นทรัพย์  อย่างไรก็ดีกรณีที่รัฐบาลตั้งงบประมาณขาดดุล โดยเฉพาะปี68 ตั้งงบขาดดุลสูงสุดรอบ 36 ปี นอกจากนั้นพบว่ามีการตั้งบเพื่อชดเชยสูงถึง 4.5%ของจีดีพี จากเกณฑ์ที่ไม่เกิน 3% ของจีดีพี ขณะที่ปีที่แล้วพบยอดตั้งงบชดเชยอยู่ที่ 4.3% เมื่อรวม 2 ปีรวมกัน ตนมองว่าจะผลกระทบต่อวินัยการคลังระยะยาว



“การตั้งงบที่ขาดดุล และกู้ชดเชยต้องพิจารณาไม่สูงเกิน 3% ของจีดีพี และงบตั้งงบหนี้ภาครัฐ 4 แสนล้านบาท เงินต้น 1.5 แสนล้านบาท ดอกเบี้ย 2.5แสนล้านบาท ดอกเบี้ยหนี้สาธารณะอยู่ระดับ 9% ทั้งนี้มีข้อกำหนดไม่เกิน 10% ทั้งนี้หนี้สาธารณะสูงสุดในรอบ 9 ปี 67.9% สูงกว่าค่ากลาง 7.9% ดังนั้นสัดส่วนดอกเบี้ยต่อรายได้สูงขึ้นทุกปี เงินที่ได้มีภาระจ่ายดอกเบี้ย เครดิตความเชื่อถือของประเทศลดลง ทั้งนี้นายกฯ เป็นนักบริหารบริษัท แต่มาบริหารประเทศเกือบ 1 ปี ทำประเทศเข้าสู่วิกฤตและเกือบเจ๊ง ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนและตั้งการ์ดให้ดี เชื่อว่า ครม. มีคนเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ มีคณะทำงาน ดังนั้นควรเลือกใช้คนที่เหมาะกับงาน” นายชัยชนะ อภิปราย

นายชัยชนะ กล่าวว่า การจัดงบประมาณให้กับท้องถิ่น ด้วยว่า ปี 68 จัดสรรให้จำนวน 8.39 แสนล้านบาท ทั้งนี้ในรายละเอียดพบว่า ส่วนของ อบจ. 76 แห่ง มีประชากร 60 ล้านคน ได้รับงบ 2.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่กทม. ได้รับจัดสรร 2.8หมื่นล้านบาท มีคน 5 ล้านคน ทั้งที่งบท้องถิ่นคาดหวังว่าจะได้รับจัดสรรเต็ม 35% แต่ได้เพียง 29% ดังนั้นขอให้นายกฯคนที่ไหว้สวยที่สุดในประเทศ นำงบกลาง 1.7แสนล้านบาท จัดสรรให้กับท้องถิ่นเพิ่มได้หรือไม่ หากให้ได้ท้องถิ่นมีงบ 35% เพื่อพัฒนาท้องถิ่น ดูแลราษฎรในพื้นที่ดีกว่านี้

“สิ่งที่น่าช้ำใจกับคนท้องถิ่น และ อบจ. คือ งบปี 2567 ได้รับถ่ายโอน รพ.สต. 4276 แห่ง 62 อบจ.รับแล้ว  ทั้งนี้มีสัดส่วนเงินอุดหนุน เพียง ขนาดเล็ก 4แสน ขนาดกลาง 6 แสนบาท ขนาดใหญ่ 1 ล้านบาท จากเดิมที่ระบุว่าจะให้งบประมาณมากกว่าจำนวนดังกล่าว ทั้งนี้การบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯ ขอให้นำสูตรการจัดสรรงบประมาณ ส่วนท้องถิ่นของผมไปใช้จากเดิมที่แบ่งส่วนให้ท้องถิ่น 29.1% ส่วนกลาง 70.9% ขอให้เปลี่ยนแปลงสูตร ให้ท้องถิ่น 40%% ส่วนกลาง 60% เพื่อให้คนท้องถิ่นรักนายกฯ” นายชัยชนะ กล่าว