วันที่ 20 มิ.ย.67 นายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์ นายด่านศุลกากรจันทบุรี พร้อมด้วยนายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี หน่วยงานความมั่นคงภายในจันทบุรี และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองจันทบุรี นำของกลางบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3,758 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท มาร่วมแถลงผลการจับกุม หลังจากที่ศุลกากรจันทบุรี ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ไปลุยตรวจค้นจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้า พบมีทั้งร้านจำหน่าย และโกดังเก็บสินค้า ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นล็อตใหญ่ที่สุดที่จับกุมได้
นายพงษ์ศักดิ์ นายด่านศุลกากรจันทบุรี เปิดเผยว่า ร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่จับกุมครั้งนี้เป็นร้านใหม่ แต่พบว่าวิธีการเริ่มเปลี่ยนไป คือมีการขายออนไลน์มากขึ้น สิ่งที่ต้องปราบปราม นอกเหนือจากนโยบายของรัฐบาล คือ ความห่วงใยในสุขภาพของเด็ก เยาวชน เนื่องจากพบว่าปัจจุบันเจอนักสูบหน้าใหม่ที่มีอายุน้อยลง เพื่อปกป้องประชาชนและเยาวชนที่อาจได้รับสารพิษจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงต้องเร่งปราบปราม
ขณะที่ นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี ได้เน้นย้ำพร้อมฝากผู้ปกครองให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ตรวจสอบพฤติกรรม และกระเป๋านักเรียนเนื่องจากปัจจุบัน รูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนรูป รส กลิ่น และแพ็คเกจใหม่ ให้มีความน่าสนใจ และเข้าถึงกลุ่มเยาวชนมากขึ้น เห็นได้จากการทำเลียนแบบกลิ่นลูกอม แต่แท้จริงแล้วเป็นอันตรายแฝงที่ทำลายสุขภาพ มอมเมาเยาวชน
ด้านฝ่ายความมั่นคงภายจันทบุรี เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งกำชับ ทุกภาคส่วนเร่งปรามปรามบุหรี่ไฟฟ้า อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง พร้อมฝากผู้ประกอบการให้หยุดจำหน่าย นำของผิดกฎหมายมาทำร้ายประชาชน เพื่ออนาคตของประเทศชาติ
ทั้งนี้บุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ และเป็นสินค้าความผิดมาตรา 242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยการลักลอบจำหน่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ