“เด็กปชป.” แซะนายกฯแถลงแก้ยาเสพติดเหมือนโฆษณายาไม่ตรงฉลาก  ซัดนั่งดูดาย แต่คิ้วขมวด-ปากจู๋   สอนงานผู้นำต้องรุกป้องอนาคตชาติ แนะตั้งศูนย์บำบัดยาเสพติดทุกจังหวัด ฟื้นฟูครบวงจร  ก่อนระบาดติดยาทั่วไทย พร้อมฝากกลอนขยี้ใจ “เศรษฐกิจก็เสดสา พัฒนาก็ค้างคาใจ ยาเสพติดก็ติดกันไป สบายใจรัฐบาลเศรษฐี”

 

วันที่ 20 มิ.ย.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท วาระแรกต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ต่อมาเวลา 17.40 น. นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายงบฯ ปี 68 ว่า นายกฯ แถลงนโยบายต่อสภาฯโดยเฉพาะปัญหายาเสพติดว่า รัฐบาลจะทำให้ยาเสพติดหายไปจากสังคมไทย ยึดหลักการเปลี่ยนผู้เสพติดให้เป็นผู้ป่วย สนับสนุนให้ผู้เสพติดเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง แต่เมื่อดูงบฯปี 68  ในส่วนแผนงานบูรณาการป้องกันการปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด แม้ได้รับงบฯ 5 พันกว่าล้าน เพิ่มจากงบฯปี 67แต่ก็ยังน้อยอยู่ดีเหมือนรัฐบาลไม่จริงใจต่อประชาชนที่บอกว่า จะให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด เหมือนคุณสมบัติของยาไม่ตรงกับฉลาก

นายพิทักษ์เดช กล่าวต่อว่า  ผ่านมา 9 เดือน รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพ แต่รัฐบาลกลับเน้นไปในเรื่องการป้องกันและปราบปรามมากเกินไป รัฐบาลควรทำให้เท่ากันคือ การบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด วันนี้เราจะเห็นทั้งในเมืองและชนบท ผู้ป่วยยาเสพติดมากขึ้นดังสโลแกน“คนเสพตาย คนขายติดคุก ” แต่วันนี้“คนเสพกว่าจะตายกลับไปทำร้ายคนอื่น คนขายติดคุกต้องจับให้ได้ก่อน”  ดังนั้นรัฐบาลต้องแก้ไขและบริหารจัดการผู้เสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ช่วยเหลือฟื้นฟูอย่างครบวงจร เพื่อให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษาได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและกลับมาใช้ชีวิตในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน

“วันนี้รัฐบาลไม่มีหน่วยงานกลางและไม่มีการบูรณาการแผนการจัดการ รักษาผู้ป่วยยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จับผู้ป่วยไปแต่ไม่รู้จะเอาไปไหน รัฐบาลยังนั่งดูดาย ผมก็เห็นว่าสิ่งที่นายเศรษฐาทำแล้วเป็นหน้าเป็นตาที่สุด คือ เวลาที่นักข่าวถามแล้วท่าน จะทำหน้าคิ้วขมวดและทำปากจู๋”นายพิทักษ์เดช กล่าวพร้อมทำคิ้วขมวดและทำปากจู๋  ก่อนกล่าวอีกว่า   “นายกฯควรจะตั้งศูนย์บำบัดยาเสพติดในแต่ละจังหวัด หรือบูรณาการร่วมกับกองทัพ และอุดหนุนงบประมาณไปให้กองทัพ เรื่องนี้นายกฯต้องเป็นผู้นำในการจัดตั้งแผนเพื่อทำการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดที่ดีขึ้น ถ้าเราปล่อยไปให้เป็นปัญหายืดเยื้อเป็นโรคเรื้อรัง  เชื่อว่าอีกไม่นานเยาวชนของประเทศไทย ก็จะมีแต่จมลงเพราะติดยาเสพติดทั่วเมือง สงสารเจ้าหน้าที่ เมื่อไปจับผู้ป่วยไปรักษา แต่ไม่รู้จะพาไปที่ไหน  อุปกรณ์ที่ไปจับประเทศไทยก็มีแต่ไม้ง่าม เหมือนไม้แขวนเสื้อไปเกี่ยวคอ  รัฐบาลไม่คิดจะสนับสนุนเรื่องเหล่านี้ ผมรับไม่ได้ที่สุด  ด้วยเหตุนี้จึงไม่เห็นด้วยกับงบฯปี68 ขอฝากไว้ว่า เศรษฐกิจก็เสดสา  พัฒนาก็ค้างคาใจ  ยาเสพติดก็ติดกันไป  สบายใจรัฐบาลเศรษฐี ”นายพิทักษ์เดช  กล่าว