ผอ.สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เผยเร่งสกัดกลุ่มทุนจีน ที่ร่วมกับพ่อค้าไม้ชายแดนในไทย เข้ามากว้านซื้อไม้ประดู่แปรรูปในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบแค่คนชี้เป้าได้เงินสูงถึงหมื่นบาท ขณะที่ไม้ประดู่แปรรูป มีราคาสูงล่อใจ
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผอ.สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์การลอบตัดไม้ประดู่เพื่อแปรรูปในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่า ปัจจุบันได้มีกลุ่มทุนจีน ที่อาศัยอยู่ในประเทศลาว ได้เข้ามากว้านซื้อไม้ประดู่แปรรูปในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีอดีตกลุ่มพ่อค้าไม้ชายแดนคนไทยเข้าไปร่วมกับขบวนการดังกล่าว
ซึ่งทางด้านสำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 16 ได้ร่วมกับ สำนักจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน สำนักจัดการการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 กองบังคับการตำรวจภูธรแม่ฮ่องสอน และหน่วยงานอื่นๆ ร่วมมือกันในการสกัดกั้นการลักลอบตัดไม้ประดู่ ด้วยการสืบสวนหาข่าว การลาดตระเวนในป่าเป้าหมายที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ เพื่อจับกุมและตรวจยึดไม้ประดู่ที่ถูกลอบตัด รวมไปถึงการสกัดกั้นการลอบนำไม้ประดู่ออกจากพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ทั้งนี้ในส่วนของการลอบนำไม้ประดู่ออกจากพื้นที่ พบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าว ได้ใช้รถตู้ทึบ ที่ลอบอำพรางเข้ามาในลักษณะมาจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดให้กับร้านค้าต่างๆ ตามหมู่บ้านห่างไกล จากนั้นขากลับ ได้ลอบลำเลียงไม้ประดู่ออกไป ซึ่งทางสำนักบริหารอนุรักษ์ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทำการสกัดจับและสามารถจับกุมกลุ่มลักลอบขนไม้ประดู่ได้หลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม พบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าว มีการทำงานเป็นทีม ด้วยการส่งนายหน้าเข้ามาในพื้นที่เพื่อขอให้ราษฎรในพื้นที่ ทำการลอบตัดไม้ประดู่ ซึ่งพบว่า แค่คนชี้เป้าว่ามีไม้ประดู่อยู่ในพื้นที่ป่าบริเวณใดบ้าง จะได้ค่าชี้เป้า ต้นละ 10,000 บาท ส่วนไม้ประดู่แปรรูป ขนาดหน้ากว้าง 20 นิ้ว หนา 4 นิ้ว ยาว 200 เซนติเมตร จะมีราคาแผ่นละ 12,000 บาท ซึ่งจากราคาที่สูงมากกว่าไม้สักทองถึง 3 เท่าตัว ( ราคาในท้องถิ่น ) ทำให้ราษฎรในพื้นที่ ที่มีฐานะยากจน หันไปรับออเดอร์ลักลอบแปรรูปไม้ประดู่เพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ
อนึ่งถึงแม้ว่าจะมีกลุ่มขบวนการกลุ่มทุนจีนเข้ามากว้านซื้อไม้ประดู่แปรรูป ในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทางหน่วยงานในพื้นที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามหาข่าว สกัดกั้น จับกุม อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกรม ฯ ได้ให้ความสนใจและติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
