นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายในวันนี้ได้ร่วมหารือกับ Mr. KURODA Jun (นายคุโรดะ จุน) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) เพื่อแนะนำผู้บริหารชุดใหม่ของหอการค้าญี่ปุ่น - ไทย และรายงานผลการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2567 พร้อมทั้งหารือแลกเปลี่ยนประเด็นความร่วมมือด้านการคมนาคม

นอกจากนี้ยังได้แสดงความยินดีคณะผู้บริหารชุดใหม่ของหอการค้าญี่ปุ่น - กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณ JETRO Bangkok ที่ช่วยเผยแพร่และประชาสัมพันธ์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของประเทศไทยให้แก่นักลงทุนชาวญี่ปุ่นตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำถึงแนวทางการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ที่มุ่งเน้นการสร้างประเทศไทยมีให้มีสภาวะแวดล้อมเหมาะสมต่อการลงทุนจากต่างชาติ ผ่านการรับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่เกิดขึ้นจริงกับนักลงทุน โดยวันนี้ได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชน ตลอดจนเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Double Deck หรือทางด่วน 2 ชั้น เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางพิเศษศรีรัช ช่วงงามวงศ์วาน - พญาไท - พระราม 9 เป็นต้น ซึ่ง JETRO Bangkok มีความพึงพอใจในการดำเนินการต่าง ๆ และการแก้ไขปัญหาการจราจรของกระทรวงคมนาคม 

นายสุริยะ กล่าวว่า นอกจากนั้นได้รับฟังรายงานผลการสำรวจที่หอการค้าญี่ปุ่น – กรุงเทพฯ รายงานถึงดัชนีแนวโน้มเศรษฐกิจ ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ ในระดับ 9 จากครึ่งปีแรกที่ติดลบ 11 และจากปีก่อนที่ติดลบ 17 ผลจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และภาคการส่งออกของไทยที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง 

ส่วนผลการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ทางหอการค้าญี่ปุ่น - กรุงเทพฯ ได้รายงานผลสำรวจ พบว่า บริษัทผู้ตอบแบบสำรวจมองว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทยมีการปรับปรุงพัฒนาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยขอให้รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง นอกจากนี้ ยังมองว่า การลงทุนด้านโรงงานและเครื่องจักร จะเพิ่มขึ้น 23% ขณะเดียวกันคาดว่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะเพิ่มขึ้น 33% 

นายสุริยะ กล่าวว่า นโยบาย IGNITE Thailand ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางมาในช่วงก่อนหน้านี้ ยังได้ผลตอบรับที่ดีจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยจากการสำรวจพบว่า บริษัทส่วนใหญ่มีความคาดหวังด้านโลจิสติกส์ 41% การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต 33% การท่องเที่ยว 23% และ การแพทย์และสุขภาพ 20% โดยการผลสำรวจดังกล่าวจะเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลไทยต่อไป 

สำหรับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) ก่อตั้งขึ้นในปี 2502 มีบทบาทในการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น ผลักดันการนำเข้าของสินค้าไทยสู่ตลาดญี่ปุ่นและเผยแพร่บรรยากาศที่ดีของการลงทุนในประเทศไทยให้แก่ภาคธุรกิจของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ในการทำวิจัยด้านเศรษฐกิจของภูมิภาคจากการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรอีกด้วย ทั้งนี้ การสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย จัดขึ้นโดยหอการค้าญี่ปุ่น - กรุงเทพฯ (JCCB) เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 2517 และจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยทำการสำรวจทุก 2 ปี นับได้ว่าเป็นการสำรวจเดียวที่สะท้อนสภาพธุรกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ 

นอกจากนี้ นายสุริยะได้เชิญชวน JETRO Bangkok มาลงทุนในประเทศไทยในโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการแลนด์บริดจ์ โครงการรถไฟทางคู่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นต้น ซึ่ง JETRO Bangkok ได้ให้ความสนใจและตอบรับโดยจะมาร่วมลงทุนที่ประเทศไทยในโอกาสต่อไป