แก้วสรร อติโพธิ

ถาม ทักษิณบังอาจหลอกต้มศาลว่าขอไปดูโอลิมปิค แล้วหนีคดีไป ๑๘ ปีถึงกลับมา กลับมาแล้วโทษ ๘ ปี ที่เหลืออยู่ก็ไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว พอมาวันนี้ต้องคดีความผิดตาม ๑๑๒ อีก แล้วทำไมศาลถึงให้ประกันตัวไปเสียได้ ไม่กลัวเขาหนีคดีอีกหรือ 

ตอบ ศาลต้องดูพฤติการณ์ ณ วันนี้ เท่านั้นว่า มีเค้ามูลให้เชื่อได้ว่าจะหลบหนีหรือไม่ ในเมื่อวันนี้เขากลับมาเอง ไม่ใช่ถูกต่างประเทศจับส่งตัวมาให้ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อเป็นอย่างนี้เราจะมองว่าเขาพร้อมจะหลบหนีไม่ได้

ถาม คนต้มศาลหนีคดีอย่างนี้ ไปไว้วางใจมันได้อย่างไร

ตอบ สิทธิได้ประกันตัวนี้ เป็นสิทธิพื้นฐาน  จะริดรอนได้ก็ต่อเมื่อมีพฤติการณ์จริง ณ เวลานั้น มาอธิบายให้เห็นเป็น “ความน่าจะเป็น” ( Probablity )ได้ ไม่ใช่มีแค่ “ความเป็นไปได้” ( Possibility ) ตามจินตนาการของศาลแต่ละคนเท่านั้น  

ถาม คนมันเคยหนีคดีแล้ว มันก็ต้องหนีอีกอยู่ดี อาจารย์คอยดูก็แล้วกัน

ตอบ นั่นเป็นเรื่องอนาคต เราต้องอยู่กับวันนี้ แล้วทำวันนี้ให้ถูกต้องก็พอ  

ถาม อะไรคือ “ความถูกต้อง”ของอาจารย์

ตอบ มีคดีหนึ่งจำเลยถูกฟ้องว่าข่มขืนเพื่อนหญิงท้ายรถเมล์ที่จอดอยู่ในอู่ จำเลยสู้คดีว่าผู้เสียหายสมยอมและนำพยานมาสืบยืนยันว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กันมาก่อน ศาลถามผู้เสียหาย ผู้เสียหายก็ไม่ปฏิเสธ แต่ยืนยันพร้อมรายงานตรวจร่างกายที่ได้ต่อสู้ขัดขืนจนฟกช้ำดำเขียว ผมขอถามคุณว่า ด้วยรูปคดีที่เคยได้เสียกันมาก่อนแล้วพากันไปอยู่หลังรถเมล์ในอู่อย่างนี้ คุณจะพิพากษาว่าผู้เสียหายสมยอมหรือไม่

ถาม มันก็ไม่แน่นะครับ ครั้งก่อนเคยยอม ครั้งนี้เธอก็มีสิทธิจะไม่ยอมก็ได้ เราจะฟังพยานกันแบบนี้ จนริดรอนสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของผู้เสียหายเขาไม่ได้  

ตอบ กรณีทักษิณก็เช่นกัน ถ้าเราปล่อยให้ศาลสั่งคำขอประกัน ตามจินตนาการและความไว้วางใจของศาล หลักประกันในเสรีภาพของปวงชนชาวไทยในข้อนี้ จะเสื่อมสูญไปจะมี “ผลไม้พิษ” คือคำสั่งตามอำเภอใจออกมามากมายจากแนวทางที่ผิดพลาดนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องเทคนิค แต่เป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ ที่กฎหมายต้องรับผิดชอบคุ้มครองให้โดยเสมอภาค

ถาม สรุปแล้วเราต้องยอมให้คนขี้โกงที่เหยียบกฎหมาย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอยู่อย่างนี้หรือ

ตอบ สาเหตุมันอยู่ที่ความบัดซบทางการเมือง ต้องแก้ที่ตรงนั้น จะเอากฎหมาย เอาศาลมาใช้เป็นอาวุธการเมืองจนเป็น “นิติสงคราม ” อย่างที่เขากล่าวหากันไม่ได้ ฝ่ายค้านต้องทำงาน ไม่ใช่ลอยตัวเป็น “ฝ่ายคอย” คอยเสียบ คอยเลือกตั้งใหม่อยู่แบบนี้ ข้าง สส.รัฐบาล ก็ต้องเลิกเป็นขี้ข้าทุนเสียที ส่วน ปปช.ถ้ายังนิ่ง นั่งพองปากเป็นอึ่งอ่างอยู่แบบนี้ก็แก้รัฐธรรมนูญเลิกไปเสียเลย ท้ายสุดที่ฝูงใหญ่มากๆ ก็คือพวกกบเลือกนายก็ต้องกลับตัวมาเป็นคน เป็น “ประชาชน”ที่แท้จริงได้แล้ว

ถาม สรุปว่าเราพึ่งอะไรจากกฎหมายไม่ได้

ตอบ พึ่งได้เท่าที่ควรพึ่งเท่านั้น คดีถอดถอนนายกฯถุงเท้าแดงจอมอีเวนต์ หรือคดียุบก้าวไกล ก็เหมือนกันครับ อย่าไปกดดันกันเลย มันเป็นคดีที่ยากทีเดียว ปล่อยให้ศาลท่านทำงานไปตามครรลองจะดีกว่า วันนี้ เหลือแต่วิกฤตโลกทั้งเศรษฐกิจและสงคราม ที่กำลังส่งคลื่นสึนามิมากระแทกบ้านเรานี่แหละครับ ที่ต้องร่วมระดมความคิดระดมกำลังกันได้แล้วว่า เราจะอยู่รอดกันอย่างไร มี “อนาคตใหม่” อะไรบ้าง ที่ต้องลงมือสร้างขึ้นมาได้แล้วในวันนี้  

ที่สำคัญ...ต้องระวังอย่าให้มีเซเลนสกี้เมืองไทย ชักศึกเข้าบ้านพาชาติไปชิบหายเป็นอันขาด
       

#แก้วสรรอติโพธิ #มาตรา112 #ข่าววันนี้