"วิษณุ" เผยส่ง "เลขาฯ ครม."เป็นพยาน คดี 40 สว.ยื่นศาลรธน. ถอดถอน”นายกฯ"แล้ว ระบุยังไม่มีการวินิจฉัย เชื่อศาลรธน. ยกเป็นประเด็นมาตรฐานจริยธรรม ด้าน"อนุทิน" มั่นใจรัฐบาลยังมีเสถียรภาพหลังอัยการสั่งฟ้อง”ทักษิณ”คดี112 ขออย่ากังวลหุ้นตก 
  
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.67 นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องสมาชิกวุฒิสภา 40 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) หรือไม่ กรณีนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือนในความผิดฐานละเมิดศาล จะมีผลอะไรออกมาหรือไม่ ว่า ไม่ได้พิจารณาในวันนี้ แต่ศาลให้ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานต่อศาลที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ลักษณะเดียวกับคดีของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นการเริ่มพิจารณา จะมานั่งประชุมพิจารณาและถกเถียงกัน ผลจะยังไม่เกิดขึ้นใน 1-2 วันนี้ ส่วนพยานที่ส่งไปเพิ่มเติมมีเพียง 1 คน คือ นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพราะเป็นบุคคลที่รู้กระบวนการทั้งหมด 


ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ตรวจดูคำชี้แจงของนายกฯ มีความเป็นไปได้ที่นายกฯจะรอดใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น หากจะให้บอกว่าไม่รอดแน่ๆ ก็จะประหลาด หรือจะให้บอกว่ารอดแน่ๆ ก็พูดไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ในกระบวนการของศาล เพื่อให้ศาลสบายใจ ส่วนรายละเอียดคำชี้แจงเดี๋ยวคงมีการเปิดเผยกันออกมาเอง ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไร เพียงแต่ในชั้นนี้ศาลยังไม่ได้พิจารณา เราจะมาพูดแถลงนอกศาลไม่ได้ 

เมื่อถามว่า 2 เรื่องที่รัฐบาลไม่ได้ถามคณะกรรมการกฤษฎีกาคือ เรื่องมาตรฐานจริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต ได้มีการชี้แจงต่อศาลไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ส่งคำอธิบายไป แต่ไม่ได้ถึงขนาดอธิบายเป็นคำนิยาม เพราะเป็นคำที่เข้าใจกันอยู่ทั่วไป เพียงแต่ว่าคำว่าซื่อสัตย์สุจริตหรือมาตรฐานจริยธรรม มีความหมายของมันตามรัฐธรรมนูญและมีกระบวนการ คำว่ามาตรฐานจริยธรรมไม่ใช่เป็นที่เราแต่งขึ้นเอง แต่เป็นคำเฉพาะที่เหมือนชื่อคน เป็นชื่อกฎหมาย ถ้าจะมากล่าวหาว่าใครผิดมาตรฐานจริยธรรมก็จะต้องร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีเส้นทางในการดำเนินการ ตนเชื่อว่าเรื่องจริยธรรมและความซื่อสัตย์จริตน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่ศาลจะพิจารณา เพราะอย่างอื่นสามารถพิสูจน์เป็นรูปธรรมได้ เช่น เคยติดคุกหรือไม่ เคยต้องคำพิพากษาหรือไม่ แต่เรื่องมาตรฐานจริยธรรมไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้ หากไม่มีกระบวนการโดยเฉพาะต่างหาก เรื่องซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อยู่ ๆ จะไปบอกว่าใครไม่ซื่อสัตย์สุจริตตามรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะจะทำให้ขาดคุณสมบัติตลอดชีวิต 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าเรื่องมาตรฐานจริยธรรม น่าจะเป็นเรื่องของหน่วยงานอื่นเป็นผู้พิจารณา นายวิษณุ กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของหน่วยงานอื่นพิจารณาอยู่ด้วย เมื่อถามว่า ในอดีตเคยมีคดีลักษณะเดียวกันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด โดยเป็นกรณีที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่และมาร้องเรียนเพื่อเอาออกจากตำแหน่ง แต่กรณีของนายพิชิต ชื่นบาน ปัจจุบันได้ออกจากตำแหน่งไปแล้วก็จบ เป็นเรื่องที่ตั้งไปแล้ว เป็นรัฐมนตรีแล้ว หลายคนเป็นพฤติกรรมที่ทำไปแล้วเป็นชิ้นเป็นอันในขณะนั้น เมื่อถามย้ำว่า มาตรฐานจริยธรรมต้องวัดหลังจากดำรงตำแหน่งใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ได้ตอบแบบนั้น แล้วแต่ศาล เราบอกก่อนไม่ได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ครั้งนี้จะถือเป็นบรรทัดฐานเลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นบรรทัดฐาน เมื่อถามว่า เป็นเพราะนายกฯไม่รู้พฤติกรรมในอดีตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขอไม่อธิบายตรงนี้ ขอไปอธิบายกันในศาล ส่วนผลจะออกมาเร็วหรือช้านั้น ไม่ทราบ แต่ไม่ใช่ภายใน 3-7 วันนี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ไม่ต้องชี้แจงแล้ว เพราะได้ส่งพยานไปแล้ว 1 คน

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)กล่าวถึงกรณีอัยการไม่เลื่อนคดี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อศาลอาญาประทับรับฟ้องในคดีมาตรา 112 จะส่งผลกระทบต่อการเมืองหรือไม่ ว่า ยังอยู่ในกระบวนการอยู่ตนมองว่าไม่เกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาล  เราเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาท่านรู้จักท่าน เราก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดเกิดขึ้นกับท่าน แต่เป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการ มั่นใจในแง่การเมืองไม่กระทบ

เมื่อถามว่า ในแง่ของเศรษฐกิจประชาชนหวั่นวิตกจนทำให้เกิดหุ้นตกในรอบ 4 ปี  จะเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมาอย่างไร   นายอนุทิน กล่าวว่า  อันนี้ถึงบอกว่ามันเหมือนกลัวผี  มันไม่มีจริง เกิดมาก็ไม่เคยเจอผีแต่กลัวไปก่อน แล้วพอกลัวไปก็ทำให้เสียโอกาส   รัฐบาลชุดนี้กี่คนล่ะก็ถือว่ามีเสถียรภาพนะครับ มีเสียงสนับสนุนถึง 314 เสียง ตรงนี้คำว่าเสถียรภาพเกิดแน่นอน เทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้วมีเสียง 253 เสียง มันอยู่ที่ว่าผู้นำรัฐบาลทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ ได้รับการสนับสนุนซึ่งกันและกันมันก็เกิดเสถียรภาพ 

นายอนุทิน กล่าวว่า ยกตัวอย่างเมื่อวานนี้หุ้นตก บอกเพราะผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนใหม่มา ขณะที่เขายังไม่เดินเข้ามา แล้วเราก็ไปตกใจขายหุ้นหมด แล้วไปโทษตรงโน้น ตรงนี้ต่างหากที่ เราตีตนไปก่อนไข้ แล้วใครเจ็บก็เราเจ็บเอง คนขายเจ็บทั้งที่ คนที่มาเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ปลัดกระทรวง อธิบดีอย่างไรก็ต้องมีคุณงามความดีมีความรู้ความสามารถ ไม่งั้นจะผ่านกระบวนการคัดเลือกมาได้อย่างไร 


“เราต้องอย่าไปตกในสิ่งที่มันไม่มี แล้วไปกลัวก่อน แล้วตัดสินใจไปแบบนี้ความเสียหายก็ตกอยู่ที่เรา” นายอนุทิน กล่าว
 
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.)  กล่าวว่า ตนฟังจากข่าวนายทักษิณก็ไม่วิตกกังวลอะไร เพราะวันนี้บ้านเมืองเข้าสู่โหมดปรองดอง ซึ่งหลายอย่างก็คลี่คลาย และคดีที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มาจากรัฐบาลปกติ ซึ่งตนก็เชื่อในสิ่งที่เห็น อีกทั้งนายทักษิณไม่ได้อยู่ในรัฐบาลคงไม่กระทบอะไรทางการเมือง

 ผู้สื่อข่าวถามว่า การเมืองวันนี้จะไม่มีการเปลี่ยนโฉมใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองไม่น่าจะมีอะไรกระทบ วันนี้รัฐบาลมี 314 เสียง ซึ่ง ส.ส.เป็นส่วนสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล จึงไม่มีเหตุที่จะวิเคราะห์เป็นอย่างอื่น เมื่อถามว่า เป็นห่วงคดี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาหรือไม่ ว่า ตนเข้าใจว่าวันนี้เป็นการยื่นเอกสารชี้แจง จึงไม่มีผลอะไรในวันนี้ ส่วนระยะยาวว่ากันอีกที
 
"ที่ผ่านมาการเมืองทุกรัฐบาลมีข่าวลักษณะนี้ตลอด มีการนำเสนอแบบตื่นเต้นติดตาม ดูก็สนุกดี คนดูใหม่ๆ ก็อาจบอกว่าเครียด แต่ต่อไปก็จะชินไปเอง" นายสมศักดิ์ กล่าว
 ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสุดท้ายพรรคก้าวไกลถูกยุบจะส่งผลต่อการเมืองในระยะสั้น และระยะยาว หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลไม่มีผลกระทบอะไร ส่วนระยะยาวก็ไม่มีอะไร เพราะเป็นเรื่องคดีความที่มีอยู่ซึ่งเขาต้องแก้ เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เหมือนว่าพรรคก้าวไกลถูกรังแก และทำให้กลับมาชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีประวัติศาสตร์ให้เห็นหลายครั้ง ตนก็เคยได้รับผลกระทบจากการถูกยุบพรรค และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ตนเห็นและเคยชินกับสิ่งต่างๆ อย่าไปตื่นเต้นอะไร เมื่อถามว่า รัฐบาลไม่กระทบ แต่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมีปัญหาหลังหุ้นตกกว่า 1,300 จุด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงตกกันทั่วโลก