วันที่ 18 มิ.ย.67 นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา เปิดเผยว่า หลังจากมีการชี้ว่ากฎหมายปัจจุบันมาตรา 1523 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่มีความชอบรัฐธรรมนูญเพราะไม่เท่าเทียมกัน เนื่องจากว่าถ้าชายชู้แค่ล่วงเกินในที่ลับก็ถือว่าผิด แต่ถ้าหญิงชู้ในที่ลับไม่ผิดมันก็ไม่เท่าเทียมกัน ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติในมาตรา 1523 เรื่องการเรียกค่าทดแทนไม่ว่าจะชายชู้หรือหญิงชู้มันไม่เท่าเทียมกับ เพราะมาตรา 25 26 27 ทั้งชายและหญิงต้องเท่าเทียมกัน ถ้าพี่รับผิดทั้งชายและหญิงก็ต้องผิดด้วย

ซึ่งวันนี้ก็มีปรากฏร่าง พระราชบัญญัติแก้ไข ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมกัน ไปใช้คำว่าคู่สมรส แทนคำว่าสามีภรรยา เพราะฉะนั้นคู่สมรสจะเป็นชายกับหญิงก็ได้ถ้าไปล่วงเกินคู่สมรสของบุคคลอื่น หรือไปแสดงตนโดยเปิดเผยก็ถือว่ามีความผิดสามารถเรียกค่าทดแทนเรื่องชู้ได้หมด ซึ่งก็ต้องรออีก 120 วันถึงจะมีผลบังคับใช้

ส่วนตัวมองว่าพระราชบัญญัติแก้ไข ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมกัน จะทำให้การชู้มีประโยชน์มากขึ้นหรือไม่ ส่วนนี้ตนมองว่า การฟ้องชู้ในส่วนของเมียน้อยจะทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งปกติใครมีเมียน้อยก็สามารถเอาไปเก็บไว้ในคอนโดก็ไม่มีความผิด แต่ที่แก้ไขไม่ว่าจะที่ลับหรือที่แจ้งก็สามารถเอาผิดเมียน้อยได้ซึ่งก็ต้องเป็นภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้อง

ส่วนจะทำให้คนที่คิดจะมีเมียน้อยเกิดความกลัวมากขึ้นหรือไม่ส่วนตัวมองว่าคนที่มีเมียน้อยไม่กลัวเพร่ะส่วนใหญ่จะเป็นคนมีฐานะ มีตำแหน่งใหญ่โต คนที่ไม่ค่อยมีฐานะก็จะไม่ค่อยมีเมียน้อย จึงทำให้ไม่มีผล ส่วนหลักฐานที่จะใช้ในการฟ้องชู้ของกฏหมายใหม่หากเป็นการฟ้องเมียน้อยก็คงจะทำได้ง่ายขึ้นแค่เพียงสืบมาได้ว่าสามีไปนอนกับเมียน้อยที่ไหนก็สามารถฟ้องไปแล้วแต่ก็ต้องมีหลักฐานว่าล่วงเกินคือการ กอดจูบลูบคำ หรือการเข้าไปอยู่กัน 2 ต่อ 2 จากเดิมต้องรอให้เดินออกมาจูงมือกันถึงจะฟ้องได้อันใหม่สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้เลยไม่ต้องรอให้ออกมาแสดงตัวแบบเปิดเผยก็ได้