กลุ่มสมาชิกเครือข่ายกองทุนสวัสดิการหมู่บ้าน จ.บึงกาฬ 46 กองทุน จำนวนสมาชิกปัจจุบันเหลือ 2,883 ราย ไม่พอใจกรรมการดำเนินกิจการที่ไม่โปร่งใส ขาดทุน นำเงินให้สมาชิกกู้ยืมโดยไม่ผ่านมติที่ประชุม และยังค้างจ่ายเงินฌาปนกิจ 34 รายมาเกือบ 2 ปีเงินเกือบ 1 ล้านบาท นอภ.จึงนัดประชุมให้ กก.ชี้แจงพร้อมนำเงินมาจ่ายให้สมาชิก แต่ตกลงกันไม่ได้ ญาติๆ กว่า 30 รายจึงเข้าแจ้งความข้อหาฉ้อโกงประชาชน

วันที่ 18 มิ.ย.67 เวลา 13.30 น.นางบุญถัน อุบลลา อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านสามแยก หมู่ 2 ต.พรเจริญ สมาชิกกองทุนฯ ได้นำสมาชิกเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ ทองขันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ โดยการควบคุมดูแลสำนวนของ พ.ต.ท.บดินทร์ คำผุ้ย รอง ผกก.(สอบสวน) เพื่อให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการกองทุนหมู่บ้าน ในข้อหา”ยักยอกทรัพย์” กับนายเนตรน้อย  นายก อบต.  และเลขาฯ กองทุน นายประสงค์   ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านระดับอำเภอพร้อมพวก  

ซึ่งตามเงื่อนไขกองทุนฯ หากสมาชิกที่เสียชีวิตจะได้ค่าสงเคราะห์ศพๆ ละ 10 บาท ตามจำนวนสมาชิก 2,883 ราย เป็นจำนวนเงินศพละ 28,883 บาท ซึ่งจากข้อมูลทราบว่าในกองทุนมีเงินรวมสะสม 14,397,585  บาท หักค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 13,963,430 บาท เงินคงเหลือ 434,155 บาท ซึ่งขณะนี้กองทุนฯ มีเงินปัจจุบันในบัญชีเงินฝาก 190,409.71 บาท ให้สมาชิกกู้ยืม 133,000 บาท จึงตรวจสอบพบว่าเงินกองทุนฯไม่มีเงินเหลือจริงตามที่ปรากฏคงเหลือ ยังติดลบส่วนต่างอีก 116,155 บาท แต่เลขากองทุนฯกล่าวยอมรับว่าเงินที่ติดลบนำไปใช้จ่ายนอกระบบจริง แต่ทำไมทางกองทุนบอกว่าไม่มีเงินเหลือและไม่สามารถจ่ายให้สมาชิกฯ ได้ จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเงินหายไปไหน และหากมีการยักยอกจริงก็ให้ดำเนินการคดีตามกฎหมาย และหากเป็นไปได้ก็อยากให้นำเงินมาจ่ายคืนสมาชิกฯ ด้วย

ด้าน จ.อ.มนตรี จารุธำรง นายอำเภอพรเจริญ กล่าวว่า หลังจากมีการประชุมสมาชิกจำนวน 163 คนเพื่อเรียกร้องให้กรรมการกองทุนได้จ่ายเงินฌาปนกิจที่ค้างอยู่กับญาติผู้ตายจำนวน 34 รายเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาทโดยให้คณะกรรมการกองทุนได้ชี้แจงการบริหารเงินที่ขาดทุนและการดำเนินงานที่ไม่โปร่งใสโดยได้ให้สมาชิกบางคนกู้ยืมเงินไปโดยไม่มีมติที่ประชุมส่วนหนึ่งและก็ยังจ่ายเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ให้กับญาติผู้เสียชีวิตเกินไปจำนวนมาก เนื่องจากครั้งแรกที่เปิดกองทุนไปนั้นมีสมาชิกกว่า 3,000 กว่าคน แต่ปัจจุบันมีสมาชิกแค่ 2,883 ราย การจ่ายเงินฌาปนกิจก็ยังจ่ายเท่าเดิมเหมือนครั้งที่มีสมาชิก 3,000 กว่าคน จึงทำให้เป็นการจ่ายเงินเกินไปเป็นจำนวนมากนั้น

ทั้งนี้ทางสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมจึงได้มีมติให้กรรมการนำเงินส่วนที่จ่ายเกินไปมาคืนและเงินที่ให้กู้ยืมไปนั้นโดยไม่ผ่านมติที่ประชุมก็ให้นำมาคืนทั้งหมดโดยได้นัดกันมา 3 ครั้งแล้ว และวันนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่คณะกรรมการทั้งประธานทั้งเลขาก็ไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ และก็เงินที่ค้างจ่ายอยู่ 34 ศพก็ยังไม่สามารถดำเนินการจ่ายเงินให้กับญาติผู้ตายได้ ดังนั้นญาติจึงได้รวมตัวกันไปแจ้งความดำเนินคดีกับคณะกรรมการกองทุนในข้อหายักยอกทรัพย์ต่อไป

ขณะที่ นางบุญถัน  สมาชิกกองทุนฯ บอกว่า ตั้งแต่ปี 2562 ที่ก่อตั้งกองทุนมีเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านที่เป็นสมาชิก จำนวน 46 กองทุน มีสมาชิกกว่า 3,000 ราย แต่พอระยะหลังเริ่มมีปัญหาเวลาสมาชิกเสียชีวิตกลับไม่ได้รับเงินตามเงื่อนไข สมาชิกหลายคนจึงถอนตัวแม้ว่าจะไม่ได้เงินที่ออมไปก่อนหน้านี้คืนก็ตาม เพราะไม่มีความเชื่อมั่นในกองทุนฯ ปัจจุบันจึงเหลือสมาชิกอยู่ประมาณ 2,883 ราย

กระทั่งล่าสุดทราบว่ามี กรรมการยักยอกเงินไปทำให้ไม่มีเงินจ่ายสมาชิกที่เสียชีวิต ก็ได้รับความเดือดร้อน เพราะต่างหวังว่าเมื่อออมเงินแล้วจะได้รับสวัสดิการตามเงื่อนไขกองทุน เมื่อคณะกรรมการผิดนัดมา 3 ครั้งแล้วว่าจะนำเงินมาคืนกองทุนและจ่ายให้ญาติสมาชิกที่เสียชีวิตไป 34 ราย ยังไม่ได้คืนตามที่ตกลงกันไว้ จึงได้พากันมาแจ้งความให้ดำเนินคดีดีดังกล่าว