วันที่ 18 มิ.ย.2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาสมัยวิสามัญ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ จำนวน 4ฉบับ ที่เสนอโดยครม. พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคภูมิใจไทย โดยเนื้อหาร่างทั้ง 4 ฉบับ มีเนื้อหาคล้ายคลึงกันคือ ขอแก้ไขผลการออกเสียงประชามติที่ถือเป็นข้อยุติ จากเดิมที่มีเงื่อนไขกำหนดล็อคไว้ 2 ชั้นคือ 1.ต้องมีผู้มาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ 2.ต้องมีเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ ให้มีขั้นตอนผ่านการทำประชามติได้ง่ายขึ้น แต่ละฉบับเสนอแก้ไขให้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์คะแนนเสียงที่ผ่านประชามติแตกต่างกันไป อาทิ ร่างของรัฐบาล ขอให้ยึดเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง และคะแนนเสียงข้างมากต้องมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง และสูงกว่าคะแนนโหวตโน

ทั้งนี้ร่างพรรคเพื่อไทย ให้ยึดเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียง โดยคะแนนเสียงข้างมากต้องสูงกว่าคะแนนโหวตโน แต่ไม่มีเงื่อนไขเรื่องต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียง ร่างพรรคก้าวไกล ให้ยึดเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง ขณะที่ร่างของพรรคภูมิใจไทย เสนอให้แบ่งการทำประชามติเป็น 2ประเภทคือ 1.ประชามติเพื่อให้คำปรึกษาแก่ครม. ไม่ต้องอาศัยเสียงข้างมาก 2ชั้น ให้ยึดเอาเสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงก็เพียงพอ 2.ประชามติเพื่อหาข้อยุติ ให้ยึดจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีคะแนนสูงกว่าคะแนนโหวตโน

จากนั้นที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สส.แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง สส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอภิปรายแสดงความเห็นด้วยกับการแก้ไขขั้นตอนการทำประชามติให้มีหลักเกณฑ์ที่ผ่านการทำประชามติง่ายขึ้น ไม่ต้องยึดเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง 2ชั้น โดยมองว่า หลักเกณฑ์เดิมที่ใช้อยู่ เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติในการผ่านประชามติ เนื่องจากการออกเสียงประชามติเป็นเพียงการสอบถามความเห็นประชาชนในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง บางประเด็นอาจไม่ได้อยู่ในความสนใจของประชาชนโดยทั่วไป จึงไม่ออกมาใช้สิทธิ จึงไม่ควรนำจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมามีผลต่อการออกเสียง

รวมถึงเสนอให้เพิ่มรูปแบบการทำประชามติในแบบอื่นๆเช่น ไปรษณีย์ อุปกรณ์อิเลคทรอนิก เพิ่มเติมนอกเหนือจากช่องทางการใช้บัตรลงคะแนน โดยให้กกต.ออกแบบระบบ เพื่อป้องกันการทุจริต ขณะที่สส.บางส่วนเสนอให้สามารถทำประชามติได้ในวันเดียวกับการเลือกตั้งสส. หรือวันเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อประหยัดงบประมาณ

กระทั่งเวลา 14.30 น.  ภายหลังสส.อภิปรายครบถ้วน ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์รับหลักการร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ทั้ง 4 ฉบับ ด้วยคะแนน 451 ต่อ 0 งดออกเสียง 1 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 31 คน ใช้ร่างของครม.เป็นหลัก