ครูใหญ่เชื่อ ยุบ-ไม่ยุบก้าวไกล ไม่มีม๊อบแน่นอน เพราะยุบก็ตั้งพรรคใหม่มาต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยได้

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 มิ.ย. 2567  นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ นักกิจกรรมทางการเมือง อดีตแกนนำคณะราษฎรขอนแก่น  เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีที่นายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อว่าไม่ว่าผลการตัดสินของศาลจะออกมาแบบไหนกรรมการบริหารจะอยู่หรือไป แต่ประชาชนจะเชื่อมั่นในแนวคิดอุดมการณ์ของพรรคมากกว่ากว่าตัวบุคคล ซึ่ง ถ้าศาลตัดสินให้พรรคก้าวไกลโดนยุบพรรคตามกฎหมายคงเป็นการสิ้นสภาพของพรรคก้าวไกลและกรรมการบริหารพรรคจะโดนตัดสิทธิทางการเมืองเป็นระยะเวลา 10 ปี 

"แต่ต้องดูต่อไปอีกว่าจะตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคชุดไหนบ้างเพราะช่วงเวลานั้นคาบเกี่ยวกันอยู่หลายชุด เราผ่านการยุบพรรคการเมืองกันมาเยอะแล้วมองว่าจะมีม๊อบหรือมีการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกหรือไม่บอกได้เลยว่าคงไม่มีและไม่เชื่อว่าจะมี เพราะช่วงระยะเวลาการชงเรื่องการคาดการณ์ว่าจะมีการยุบพรรคนานพอที่จะทำให้ความโกรธมันจะลดลงพร้อมกับการสื่อสารของพรรคก้าวไกลเองสื่อสารไปกับประชาชนว่าต่อให้มีการยุบพรรคแต่ก็จะตั้งพรรคใหม่แล้วก็เดินไปในทิศทางเดิมดังนั้นมวลชนอยู่กับพรรคการเมือง และดูทิศทางการชี้นำของพรรคการเมืองมีผลต่อการเคลื่อนไหวของมวลชนเช่นกัน"

นายอรรถพล กล่าวต่ออีกว้า  อุณหภูมิทางการเมืองเป็นสิ่งที่ทุกคนคิดไว้อยู่แล้ว แต่ความสนใจในการรับรู้ทางการเมืองจะมีมากขึ้นเพราะมีทั้งคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ทางการเมืองและคนที่สนใจบ้างช่วงเวลาที่มีเหตการณ์สำคัญๆ เหล่านี้จะเริ่มตามการเมืองมากขึ้นตาม หลังจากที่ผลโพลต่างๆที่ออกมาพรรคก้าวไกลยังมีกระแสแรงไม่ตกคิดว่าถ้าหากยุบก้าวไกลคิดว่าจะเหมือนตอนยุบพรรคอนาคตใหม่ตอนนั้นยังเป็นกองเชียร์คิดเหมือนกันว่าถ้าไม่มี คุณธนาธร พรรคจะไปยังไงต่อ และคำถามนั้นก็กลับมาอีก ถ้าไม่มีคุณพิธา จะไปยังไงต่อ ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าไปต่อได้ทั้งแนวคิดอุดมการณ์ ความคาดหวังทางการเมืองมากกว่าตัวบุคคลดังนั้นโพลที่ออกมาคงไม่ผิดน่าจะเป็นไปตามโพลล์เป็นเรื่องของพรรคไม่ใช่เรื่องของคน อย่างไรก็ตามถ้าศาลตัดสินหากไม่มีการยุบคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพรรคก้าวไกลคงจะเดินหน้ากันต่อไปการเมืองจะเป็นการขับเคี้ยวของการช่วงชิงคะแนนนิยม ดิสเครดิตไปจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งที่จะมีในครั้งต่อไป