Tinder ร่วมฉลอง Pride Month ให้ความสำคัญในเรื่องที่คนนิวเจนพูดถึงอย่างต่อเนื่อง คือ การระบุอัตลักษณ์ทางเพศ และความหลากหลายทางเพศ รวมถึงชูเรื่องความซื่อสัตย์และเปิดกว้างในความสัมพันธ์ จากการสำรวจของ Tinder พบว่า 33% ของคนรุ่นใหม่ยอมรับเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น และ 29% ระบุว่าอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลายขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

ยูหลิง ก็อก ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการสื่อสารของ Tinder เปิดเผยว่า มากกว่า 1 ใน 5 ของผู้ใช้แอพฯ รายใหม่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน LGBTQ+3 จึงทำให้การสร้างสรรค์วิธีในการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ความรู้สึกว่าคุณรู้สึกภูมิใจที่ได้ come out บนโลกออนไลน์ หรือความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับเพื่อนใหม่เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาล Pride ด้วยกันเป็นครั้งแรกก็ตาม Tinder มีความยินดีที่ได้สนับสนุนชาว LGBTQ+ ได้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองในปีนี้

บนแอพ Tinder มีตัวเลือกอัตลักษณ์ทางเพศมากกว่า 50 รูปแบบ และรสนิยมทางเพศให้เลือกระบุได้ถึง 9 แบบ เนื่องจากเป็นแอพสำหรับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะชาว LGBTQIA+ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดบน Tinder และคนรุ่นใหม่ระบุว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของชาว LGBTQIA+ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา ปัจจุบันคนไทยรุ่นใหม่มองว่าคำนิยามเกี่ยวกับเพศไม่ได้จำกัดเพียงแค่ชายและหญิงอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปสู่ความหลากหลายและครอบคลุมคนทุกกลุ่มมากขึ้น ความเข้าใจเกี่ยวกับเพศของชาว Gen Z กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีหลายวิธีในการรับรู้และแสดงออกทางเพศอีกด้วย Tinder ร่วมกับ Gaysi Family  แพลตฟอร์มและพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ มุ่งทำให้เรื่องเพศเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายขึ้น จึงได้แนะวิธีสานสัมพันธ์การออกเดทปัจจุบันสำหรับคนเจนซี ดังนี้

1) จะรู้สรรพนามระบุเพศ (Pronouns) ของคนอื่นได้อย่างไร? 
เราไม่สามารถเดาสรรพนามของใครได้ ดังนั้นทางที่ดีสิ่งที่สุดคือถามออกไป และหากสบายใจที่จะถูกเรียกแบบไหน
ก็ให้บอกไปตรง ๆ  เป็นไปได้ว่าบางคนอาจจะไม่ได้อยากเปิดเผยเพศของตัวเอง ดังนั้นควรถามสรรพนามที่เขาอยากจะถูกเรียกในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ต่อหน้าพ่อแม่ หรือในสถานการณ์พิเศษอื่น ๆ ที่อาจจะแตกต่างกับสรรพนามที่มักถูกเรียกเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยหรืออยู่กับคนสนิท

คำแนะนำจาก Tinder: ระบุใน ประวัติส่วนตัวบน Tinder ให้ชัดเจนด้วยการเพิ่มสรรพนามที่อยากให้คนอื่นเรียก ซึ่งจะช่วยให้โปรไฟล์ของคุณแสดงถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงได้ยิ่งขึ้น

2) หากไม่รู้เพศวิถีของอีกฝ่าย จะรู้ได้ยังไงว่าเขาสนใจเราอยู่?
การที่คุณรู้ว่าอีกฝ่ายมีรสนิยมทางเพศแบบไหน ไม่ได้เป็นการยืนยันหรือมั่นใจได้ว่าเขาจะสนใจคุณอยู่หรือเปล่า ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาคำตอบคือ ให้ลองคุยดูก่อนว่าคุณและอีกฝ่ายรู้สึกยังไง แทนที่จะพยายามคาดเดาเอาเอง ในบางครั้งแม้ว่าคนๆนั้นจะดูมีท่าทีสนใจคุณ แต่อาจจะไม่ได้ต้องการออกเดทกับคุณก็ได้ เพราะอาจจะมีเหตุผลอีกอื่นๆมากมาย ดังนั้นการพูดคุยกันให้ชัดเจนเป็นวิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่าความสัมพันธ์จะสามารถพัฒนาต่อหรือพอแค่นี้ 

คำแนะนำจาก Tinder: อีกหนึ่งขั้นตอนง่าย ๆ คือการเช็ก Dating Goal  ที่ระบุในโปรไฟล์ว่าคุณทั้งคู่มีเป้าหมายในความสัมพันธ์เหมือนกันหรือไม่ และในตอนที่พูดคุยกันบนแอพมีความรู้สึกดีๆ หรือคลิ๊กกันระหว่างนั้นหรือเปล่า


3) ถ้าชอบคนที่เป็นเควียร์ เราก็เป็นเควียร์เหมือนกันหรือเปล่า?
มีแต่คุณเท่านั้นที่นิยามหรือกำหนดความเป็นตัวคุณได้ และหากคุณสนใจคนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือเควียร์ (Queer) วิธีที่คุณพูดคุยหรือจีบคนๆนั้น อาจจะแตกต่างไปจากการจีบเพศตรงข้ามแบบเดิมๆ เพราะเราอาจจะเคยชินกับโลกที่ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ผู้ชายเป็นฝ่ายชวนออกเดท หรือขอผู้หญิงแต่งงาน ความสนใจที่มีต่อเควียร์อาจต้องใช้เทคนิคใหม่ๆในการเดทและพัฒนาความสัมพันธ์ในแบบที่ทั้งสองฝ่ายสบายใจ และหากคุณรู้สึกสบายใจในการเป็นส่วนหนึ่งของชาว LGBTQIA+ ก็ขอให้เปิดใจยอมรับและเป็นตัวของตัวเอง หากคุณมีเพศวิถีที่ตรงกับเพศสภาพ (Straight) ทางที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกันแบบตรงไปตรงมากับคนที่คุณสนใจ และอยากพัฒนาความสัมพันธ์ด้วย เพราะบางทีอีกฝ่ายอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ก็ได้

คำแนะนำจาก Tinder:  ในความสัมพันธ์มีอีกหลายเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คนเราเข้ากันได้ดีกับคนที่มีความสนใจเหมือนกัน สไตล์การแสดงความรักและการสื่อสารที่ชอบก็มีความสำคัญเช่นกัน รวมถึงรูปแบบความสัมพันธ์  ดังนั้นเป็นตัวของตัวเองก่อนที่จะเริ่มต้นสานความสัมพันธ์กับใคร

แอพหาคู่มีบทบาทสำคัญในการช่วยชาว LGBTQIA+ จำนวนมากแสดงออกทางเพศได้ จากรายงานอนาคตของการออกเดท พบว่า 54% ของชาว LGBTQIA+ กล้าแสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศ (come out) บนแอพฯ ก่อนจะบอกเพื่อนและครอบครัว3 ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจนี้ Tinder ส่งสติกเกอร์ Pride บนแอพฯ ที่ออกแบบโดยพนักงาน LGBTQIA+  ของ Tinder เพื่อให้สมาชิกได้แสดงออกถึงการสนับสนุนและแสดงความเป็นตัวเองบนหน้าโปรไฟล์ได้ เช่น สติกเกอร์ “Came Out Online” เพื่อประกาศถึงความภูมิใจที่ได้แสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศบนโลกออนไลน์ และ “My First Pride” สำหรับสมาชิกที่เพิ่งร่วมฉลอง Pride Month เป็นครั้งแรก คนโสดสามารถเพิ่มสติกเกอร์บนหน้าโปรไฟล์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆใน Pride Month ปีนี้ โดยเฉพาะคนโสดที่กำลังเดทติ้งออนไลน์เพราะเป็นช่องทางที่คู่รักเพศเดียวกันสามารถพบรักกันได้มากที่สุด4

ข้อมูลอ้างอิง
1การศึกษาข้อมูลคนที่กำลังหาคู่ 4,000 คน มีอายุระหว่าง 18-25 ปี ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย และแคนาดา วันที่ 21 มกราคม 2566 - 7 กุมภาพันธ์ 2566 จัดทำโดย OnePoll ในนามของ Tinder
2 ข้อมูลการสมัครสมาชิก Tinder ในปี 2565
3 การศึกษาข้อมูลคนที่กำลังหาคู่ อายุ 18-25 ปี จำนวน 1,000 คน ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และแคนาดา วันที่ 21 มกราคม 2566 - วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566  โดย OnePoll ในนามของ Tinder
4 บทความ MIT Technology Review 9 ตุลาคม 2560
5 ข้อมูลภายในของ Tinderเกี่ยวกับผู้ใช้รายใหม่และผู้ที่กลับมาสมัครสมาชิกอีกครั้ง ตั้งแต่มกราคม 2566 - มกราคม 2567


#Tinder #ข่าววันนี้ #เจนซี #GaysiFamily