วันที่ 17 มิ.ย.2567 เมื่อเวลา 10.00 น ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงร่าง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประชามติของ คณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า เป็นการจับร่างของเพื่อไทยและก้าวไกลมารวมกัน ซึ่งในบางประเด็น เห็นตามร่างของพรรคก้าวไกลด้วยซ้ำ แต่คิดว่ามีบางประเด็นที่ยิบย่อย ที่ต่างกันบ้างเล็กน้อยก็สามารถเข้าไปพูดคุยในชั้นกรรมการวิสามัญได้ซึ่งจะรับหลักการทุกร่าง เพราะทุกร่างค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกัน
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึง การอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้ว่า จะมีการพูดคุยกันในวิปฝ่ายค้านวันนี้อีกครั้ง และน่าจะชัดเจนมากขึ้น ซึ่งทางพรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรมและพรรคเล็กอื่นๆได้ทราบหัวข้อกันไปแล้ว ก็จะมาจัดวางวันอภิปรายให้สอดคล้องกันในพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้อภิปรายหลายคนก็อาจจะใช้เวลาและจะต้องทำความเข้าใจกันอีกครั้ง
เมื่อถามถึงความแตกต่างระหว่างการอภิปรายงบประมาณปี 2568 กับปี 2567 นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า งบประมาณ 2568 มีความแตกต่างจากงบฯ2567 ที่รัฐบาลใช้ข้ออ้างว่าไม่ได้มีเวลาปรับเปลี่ยนจากร่างเดิมในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากนักแต่ครั้งนี้เป็นร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลนี้ ที่มีอำนาจในการจัดงบประมาณ ดังนั้นท่าทีในการวิเคราะห์และอภิปรายความรับผิดชอบเต็มก็คือรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
ส่วนที่มีงบประมาณส่วนหนึ่งไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและซอฟต์พาวเวอร์นั้น ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า แน่นอนว่าจุดใหญ่สุดคือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ครองงบประมาณในสัดส่วนค่อนข้างสูง พรรคก้าวไกลก็ได้สโลแกนในการอภิปราย ที่ว่า "ignore Thailand เจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้" คือเป็นการทำทุกวิถีทาง เพื่อให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิด ซึ่งเป็นการเบ่งงบให้เต็มที่ จะเห็นว่าวงเงินงบประมาณปีนี้สูงกว่าปกติ เพราะต้องการเบ่งให้ใกล้กับกรอบของการคลังเท่าที่ทำได้ให้มากที่สุด เพื่อทำให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิดให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และเมื่อเบ่งให้ตัวเองโตก็จะไปเบียดงบอื่นๆด้วย ซึ่งเป็นงบประมาณที่สำคัญกับการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนก็โดนเบียดบัง ด้วยงบประมาณของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งๆที่ จริงๆแล้วงบประมาณถ้าเอาไปทำบางอย่างจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า นี่จะเป็นหลักที่พรรคก้าวไกลจากอภิปราย
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า มีการแบ่งการอภิปรายออกเป็นรายด้าน เช่นด้านเศรษฐกิจ ด้านคุณภาพชีวิต ด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านการปฏิรูปรัฐ ด้านประชาธิปไตย เป็นต้น โดยเราจะพยายามวิเคราะห์ให้ครบทุกด้าน อาจจะไม่ครบทุกกระทรวง แต่คงจะได้เห็นว่าสิ่งที่ถูกเบียดไปมีอะไรบ้าง งบประมาณส่วนไหนที่ขาดไป และจะยังคงเห็นการตั้งงบประมาณบางอย่างที่ซ้ำซ้อน และไม่เป็นประโยชน์ และสามารถนำไปเป็นประโยชน์ในส่วนอื่นได้
เมื่อถามถึงแผนรับมือหากมีองครักษ์พิทักษ์ฝั่งรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีการ มอนิเตอร์กันตามปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ต้องกลัว ส่วนปัญหาการอภิปรายที่ซ้ำซ้อนกันนั้น เราพยายามที่จะแยกหมวดหมู่หัวข้อ ซึ่งอาจจะมีบางคนที่มีเนื้อหาที่ไขว้กันบ้าง เช่นครั้งที่ผ่านมาแม้จะมีเนื้อหาที่ซ้ำกันบ้างแต่ประเด็นโดยรวมอาจจะแตกต่างกันอยู่