เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 มิ.ย.67 ร.ต.ท.ยุตพงค์ บางหรง รอง สว.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายธนพล อายุ 51 ปี อยู่ ม.5 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ว่า พบศพไม่ทราบเพศลอยอยู่ในสระน้ำบริเวณด้านหน้าสวนปาล์มน้ำมัน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ได้ทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.สมมาศ เกษแก้ว สวป.สภ.ทุ่งตะโก พ.ต.ต.ชูศักดิ์ ทัศนภูมิ สว.สืบสวน สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน

ในที่เกิดเหตุพบศพ ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายศุภพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี อยู่ ม.4 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งทางนางอรปรียา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ภรรยาได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ทุ่งตะโก เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา โดยศพสวมเสื้อยืดแขนยางสีดำ ปกคอสีฟ้า ด้านหลังของเสื้อสกรีนปุ๋ยยี่ห้อหนึ่ง  สภาพ ลอยคว่ำหน้าอยู่ภายในสระน้ำขนาดใหญ่ที่ขุดไว้ใช้เพื่อการเกษตร หน้าสวนปาล์มน้ำมันของนายธนพล ติดกับถนนลูกรังสายเลียบรางรถไฟ ห่างจากถนนสายเอเซีย 41-ปากน้ำตะโก ประมาณ 1 กม. โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวได้แห่กันมายืนมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้กั้นพื้นที่ เพื่อป้องกันการเข้ามาทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ 

ก่อนจะดำเนินการตรวจสอบโดยรอบสระน้ำในที่เกิดเหตุพบร่องรอยล้อขนาดเล็กคล้าย ล้อรถ จยย.พ่วงหรือซาเล้ง ลักษณะขับหมุนวน และเศษเหล็กเส้น ขนาดเท่าตะเกียบไม้ ยาวประมาณ 40 ซม.จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัยฯนำศพขึ้นมาชันสูตรบนฝั่ง พบบริเวณแก้มด้านซ้าย บริเวณขมับด้านซ้าย บริเวณบนศีรษะ เป็นแผลคล้ายถูกแทงด้วยของแข็งเป็นรู ขนาดความกว้างครึ่ง ซม.และลึกกว่า 4 นิ้ว นับได้ 5 แผล ส่วนตามร่างกายพบเพียงแผลถลอกคล้ายถูกลากขูดกับดิน จึงให้ทางกู้ชีพกู้ภัยฯนำไปส่ง รพ.ทุ่งตะโก เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทราบว่า มีชาวบ้าน พบรอยเลือดและรองเท้าบูท ของนายศุภพงษ์ คนตาย ตกอยู่ในพงหญ้าข้างถนนสายรอบเขาโบราณสถานถ้ำเขาปีบ เขต ม.4 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร จึงได้เดินทางตรวจสอบ พบว่า รองเท้าบูทสีดำ เบอร์ 7 ด้านซ้ายตกอยู่ในพงหญ้าป่าริมถนนสายดังกล่าว โดยรองเท้าบูทข้างขวา ถูกทิ้งห่างกัน กว่า 4 เมตร และจุดที่พบรองเท้าบูท อยู่ตรงข้ามกับที่พบศพนายศุภพงษ์ โดยมีรางรถไฟกั้นกลางเท่านั้น 

จากการสอบถามนายธนพล เจ้าของสวนปาล์ม ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าตนเองได้เดินทางมาดูภายในสวน และขณะที่ขับเลี้ยวเข้าไปในสวน ก็สังเกตเห็นมีอะไรลอยในสระสีดำตะครุมๆ ครั้งแรกก็คิดว่าเป็นขยะที่มีคนนำมาทิ้ง แต่เมื่อขับออกมาอีกที รู้สึกเอะใจ จึงขับรถมาดูก็พบว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่ขยะแต่เป็นศพลอยน้ำ จึงได้โทรแจ้งทางผู้ใหญ่บ้านได้ทราบ

ในขณะที่ นางอรปรียา ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า นายศุภพงษ์ สามี เป็นคนที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร  ชีวิตแต่ละวัน ทุกเช้าก็จะออกจากบ้าน ซึ่งห่างจากที่พบรองเท้าบูท เพียง 700 เมตร เพื่อมาที่สำนักสงฆ์ และจะกลับมาบ้านก็ช่วงก่อนเที่ยง แต่เมื่อวานผิดสังเกต เพราะเที่ยงแล้วก็ยังไม่กลับ จึงได้ให้ลูกสาวโทรศัพท์ ไปหา ซึ่งลูกสาว ก็โทรไปและติด แต่ไม่มีคนรับ พยายามโทรหลายครั้งก็ไม่รับเช่นเดิม จึงแปลกใจ ตนและญาติ ก็ช่วยกันออกตามหา จนเย็นก็ไม่เจอ จึงได้เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ทุ่งตะโก ไว้ก่อน

นางอรปรียา กล่าวอีกว่า การที่สามีมาจมน้ำตายในสระนั้น ในส่วนลึกคิดว่า สามีน่าจะถูกฆาตรกรรม ด้วยเหตุไปพบหรือเห็นอะไรสักอย่าง ที่ไม่ดี เลยถูกอุ้มฆ่า ซึ่งตอนแรกที่มาเจอศพ ก็ยังเชื่อว่าถูกฆ่าแน่นอน เพราะสามี ไม่เคยออกมาหาปลา และตนเองก็ไม่ฆ่าสัตว์ จึงเป็นไปไม่ได้เลย จนพอกู้ภัยลงไปเอาศพขึ้นมาก็พบว่าสามีถูกทำร้ายจนตายตามที่คาดไว้ดังกล่าว

ด้านนางสาวกรรณิกา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี อยู่ ม.4 ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนเองเป็นลูกสะใภ้ของผู้ตาย โดยตั้งแต่เมื่อวานหลังที่พ่อสามี ได้หายไปอย่างปริศนา ทุกคนได้ช่วยกันตามค้นหา แต่หาอย่างไรก็ไม่พบ จนกระทั่งมาเมื่อคืน ขณะที่ตนเองเคลิ้มหลับ พ่อสามีได้มีเข้าฝัน โดยบอกว่า ให้ไปช่วยเอาพ่อขึ้นมาจากน้ำด้วย พ่อหนาวมาก พ่อนอนอยู่ในน้ำ มีคนทำร้ายพ่อ ตนเองจึงตกใจตื่นและเล่าความฝันให้แม่สามีและสามีฟัง โดยในฝัน ยังเห็นหน้าพ่อถูกทุบตีจนเป็นแผลเลือดอาบหน้าอีกด้วย จนมารุ่งเช้า มีคนแจ้งว่าพบพ่อแล้วจมน้ำตายอยู่ในสระ และเมื่อมาดูก็พบว่าพ่อถูกทำร้ายและหน้าตามีเลือดเหมือนกับฝันทุกอย่าง

ทางนายวิกร หนูบรรจง ผู้ใหญ่บ้าน ม. 4 ต.ทุ่งตะไคร กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับครอบครัวนี้ ยังไม่พบว่ามีพฤติกรรมเกเรหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใครเลย โดยทั้งสองผัวเมีย จะเป็นคนที่ไม่ชอบไปสุงสิงกับใคร นอกจากคนในครอบครัว จึงมองไม่รู้ชนวนเหตุว่าใครเป็นคนทำ ทำเพื่ออะไร เพราะคนตายเป็นคนอายุมาก สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไร หรืออาจะมาเห็นอะไรเข้า จึงถูกฆ่าปิดปาก ซึ่งก็อยู่ที่ตำรวจที่จะคลี่คลายคดี จับหาคนร้ายรายนี้มา ถึงจะทราบแน่ชัดอีกที

ด้านพระสุนทร ภูษา และพระหัด ภูษา ซึ่งเป็นพระสองรูปที่จำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ถ้ำเขาปีบ บอกว่า ทุกเช้า เวลา 8 โมง นายศุภพงษ์ ผู้ตาย จะเดินมาที่สำนักสงฆ์  พร้อมกับถังสี 1 ใบ เพื่อมารอรับเอาอาหารที่ตนทั้งสองออกไปบิณฑบาตมา เพื่อจะนำไปทานกับภรรยาที่บ้าน แต่เมื่อวานแปลกใจ เพราะนายศุภพงษ์ ได้หายหน้าไป ไม่มาเหมือนดังที่เคยทำมา จึงได้พูดคุยกัน โดยไม่คิดอะไร จนช่วงบ่ายแก่ ได้มีภรรยาของนายศุภพงษ์ มาสอบถามว่าเห็นสามีตนหรือไม่ ซึ่งตนก็บอกไปว่าไม่เห็น จนมารู้อีกทีวันนี้ว่านายศุภพงษ์ ถูกฆ่าตายแล้ว

ในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายคงไปพบสิ่งผิดกฎหมายอะไรมา จึงถูกฆ่าปิดปาก แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่นๆแต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปชี้ชัดมูลเหตุการณ์ฆ่าได้ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆทั้งในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อม และลงเก็บหากล้องวงจรปิดตามเส้นทางในละแวกเพื่อจะนำมาสรุปสำนวนเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป