วันที่ 16 มิ.ย.67 เพจเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า...

ศาลเจ้าพระเจ้าเล่าปีกับพระเจ้าเล่าเสี้ยนเจ้าไม่มีศาล

ศาลเคารพพระเจ้าเล่าปี่เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องโถงกลางของศาลเจ้า พระเล่าปี่ในเครื่องฮ่องเต้อยู่กลางด้านข้างขวามือเป็นรูปของเป่ยตี้อ๋องหรือองค์ชายเล่าขำ ผู้เป็นหลานปู่เป็นพระราชบุตรในพระเจ้าเล่าเสี้ยนแห่งจ๊กก๊ก มีพระเชษฐาร่วมพระบิดามารดาเดียวกันคือเล่ายอย เล่าเอียว เล่าจ้อง เล่าจ้าน เล่าสุนและเล่ากี่

องค์ชายเล่าขำเป็นผู้คัดค้านที่จะยอมแพ้ยกเมืองเมื่อเตงงายยกทัพประชิตเมืองสุดท้ายฆ่าตัวตายทั้งครอบครัวไม่อยู่รับตวามอัปยศ

ในห้องโถงสองข้าง ห้องหนึ่งมี รูปกวนอู อีกห้องเป็นรูปเตียวหุย ระเบียงหน้าห้องโถงทั้งสองข้างมีรูป ขุนนางและทหาร 28 คน

ตรงห้องกลางซ้ายมือเป็นที่ว่างมีต้นไม้ตายยอดด้วนอยู่เข้าใจว่าเดิมนั่นเคยเป็นที่ตั้งรูปเคารพพระ้จ้าเล่าเสี่ยนหรืออาเต๊า ที่กลายเป็นเจ้าไม่มีศาล

จากหลักฐานบันทึกไว้ เดิมทีในศาลเจ้าแห่งนี้ มีรูปเล่าเสี้ยน แต่ไม่มีรูปเล่าขำ คงเป็นเพราะเล่าเสี้ยนสิ้นชาติ ก่อนราชวงศ์ถัง จึงถูกเอาออกจากศาล แต่ภายหลังก็ถูกนำมาไว้อีกตามบทกวีตู้ฝู่ กวีเอกราชวงศ์ถัง เขียนไว้ในบทกวีบทหนึ่ง “สงสารเล่าเสี้ยน กลับคืนศาล”

จนมาถึงยุคราชวงศ์ซ่งเหนือ เจียงถังไฉ ข้าหลวงมณฑลเอ๊กจิ๋ว สั่งให้ยกรูปเล่าเสี้ยนออกจากศาล ะอเปลี่ยนผ่านมาถึงราชวงศ์ซ่งใต้ รูปเล่าเสี้ยนก็ได้กลับเข้าศาลอีก

รูปเคารพของอาเต๊าถูกเอาเข้าออกจากศาลหลายครั้งจนกระทั่งงิ้วจีนเรื่องสามก๊กได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยราชวงศ์เรื่องราวของพระเจ้าเล่าเสี้ยนยิ่งเป็นเชิงลบเรียกว่าลูกเด็กเล็กแดงว่าไม่ควรเอาอย่างคนแบบอาเต๊าที่รักสนุกสบายทิ้งบ้านทิ้งเมืองไม่รู้ข้อบกพร่องของตัวเอง และแล้วรูปเล่าเสี้ยน ก็ถูกนำออกจากศาล เป็นครั้งสุดท้ายนับแต่นั้นรูปเล่าเสี้ยน ก็ไม่ได้กลับเข้าศาลอีกเลยจนบัดนี้

ถึงแม้ว่าพระเจ้าเล่าเสี้ยนจะได้ชื่อว่าฮ่องเต้ที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาและมีบุญมาเกิดแต่ก็สุขจนลืมจ๊กก๊กจนไม่มีศาลบนแผ่นดินทีาตนเองเคยปกครอง