วันที่ 15 มิถุนายน 2567  เวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่อ่าวตาลคู่ ต.บางปิด อ.แหลมงอบ จ.ตราด เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือ เขตอ.แหลมงอบ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำหายไป ขอให้เข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน

เมื่อเดินทางมาถึง พบ นายเขียด  และนายอานนท์  ผู้อำนวยการโรงเรียน  และ ส.ต.ท.ธีรศักดิ์ ผบ.หมู่ ป. สภ.แหลมงอบ กำลังเข้าช่วยเหลือ นายกฤษณะ   อายุ 29 ปี  (ผู้สูญหาย) และนายแตงโม  อายุ 44 ปี  ท่ามกลางคลื่นลมแรง สุดท้ายเหลือได้แค่นายนายแตงโม ส่วนนายกฤษณะ  ช่วยไม่ทันจมน้ำหายไปต่อหน้าญาติพี่น้องและนักท่องเที่ยว  

โดย ส.ต.ท.ธีรศักดิ์  ผบ.หมู่ ป. สภ.แหลมงอบ  กล่าว ตนเองเดินทางมาพักผ่อนกับเพื่อนที่อ่าวตาลคู่ สักพักสังเกตเห็นนายอานนท์ กำลังลงไปช่วยคนจมน้ำ จากนั้นนายเขียด ลงช่วยตาม เมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งไปขอห่วงยางจากร้านค้า แล้ววิ่งลงไปช่วยเหลือทันที ซึ่งตอนลงไป นายเขียดกำลังช่วยเหลือนายแตงโมกลับเข้าฝั่ง ตนเองจึงรับช่วยเหลือต่อนำกลับเข้าฝั่ง ขณะที่นายเขียดต้องดึงตัวนายอานนท์กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย ส่วนนายกฤษณะ จมน้ำหายไป

จากนั้นกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด เขตอำเภอแหลมงอบ ได้นำตัวนายแตงโม  ส่งโรงพยาบาลแหลมงอบเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากหมดแรงและสำลักน้ำทะเล  โดยมีนายสุทธิ  ที่เป็นลุงเดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ขณะเดียวกัน นางทองใบได้ตะโกนเรียกหา บนบาน กราบไหว้ ขอให้พบตัวนายกฤษณะ   อายุ 29 ปี  (ผู้สูญหาย) อยู่ตลอดเวลา

ด้านนางทองใบ อายุ 67 ปี ป้าผู้สูญหาย กล่าวว่า ตนเองและครอบครัว เพิ่งมาอ่าวตาลคู่เป็นครั้งแรก หลังจากที่ไปส่งนายอานนท์ ต่อมกระโทก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเหลี่ยม มารับแหน่ง ผอ.โรงเรียน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกลับครอบครัว เพราะตนเองห้ามแล้วว่าอย่าเล่นน้ำ และใกล้ค่ำ จะกลับบ้านกันแล้ว 

ส่วน นายสุทธิ กล่าวว่า นายอานนท์  อายุ 39 ปี อยู่ที่ตำบลสารภี อำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ที่รับราชการครู ตำแหน่งรองผอ.โรงเรียน และได้รับการย้ายมารับตำแหน่งที่สูงขึ้นเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน จังหวัดสระแก้ว ทำให้ครอบครัวของนายอานนท์  ประกอบด้วย นายเขียด  พ่อ และนางเดือน  และนายกฤษณะ   (ผู้สูญหาย) ที่ทำงานอยู่บริษัท กันตนา จำกัด พร้อมตนเอง (ลุงของทั้งสองคน) และครองครัวของนายสุทธิรวม 8 คน โดยนำรถยนต์มา 2 คัน เพื่อเดินทางมารับตำแหน่ง

แต่ได้แวะท่องเที่ยวที่จังหวัดตราด และเดินทางมาเล่นน้ำทะเลที่อ่าวตาลคู่ เนื่องจากอยู่ใกล้ที่สุด และหลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว นายแตงโมและนานกฤษณะได้ลงไปเล่นน้ำทะเล ท่ามกลางคลื่นลมที่แรง ซึ่งหลายคนก็เตือนว่า อย่าว่ายไปเล่นไกล เพราะเป็นห่วง  เมื่อใกล้เวลา 14.00 น.ที่กำลังจะเดินทางกลับ ได้เรียกผู้เสียชีวิตให้ขึ้นมาจากน้ำ และระหว่างว่ายกลับมา เกิดหมดแรง จึงยกมือขอความช่วยเหลือ ซึ่งระยะห่างจากฝั่งประมาณ 20 เมตร ทำให้พ่อ และพี่ชาย รวมทั้งตำรวจได้ลงน้ำไปช่วยเหลือ

ล่าสุดนายแตงโม  อาการปลอดภัยแล้ว โดยร่างกายอ่อนแรง และมีอาการจุก จากการสำลักน้ำทะเล ซึ่งแพทย์ได้ตรวจอาการอย่างละเอียดระบุว่า อาการร่างกายไม่มีอะไรผิดปกติ เพียงแต่มีอาการสำลักน้ำทะเล จึงให้ยาป้องการการติดเชื้อ และอยู่ดูอาการ 1-2 วัน หากไม่มีอาการใดเกิดขึ้นก็เดินทางกลับบ้านได้ 

โดย นายแตงโม กล่าวว่า เห็นน้องชายขอความช่วยเหลือจึงลงไปช่วย แต่คลื่นลมแรง ยังไมาทันถึงตัวน้องชายก็จมน้ำหายไป ส่วนตนเองก็หมดแรง มีคนมาช่วยขึ้นจากทะเลและลุงนำมาส่งโรงพยาบาลแหลมงอบ

ต่อมา ร.ต.อ.สุกฤษ บึงจันทร์ ร้อยเวรสภ.แหลมงอบ เดินทางมาที่โรงพยาบาลแหลมงอบ และสอบปากคำนายสุทธิ เนตรสูงเนิน ไว้เป็นหลักฐาน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แหลมงอบ 10 นาย ทหารนาวิกโยธิน จำนวนหนึ่ง และเจ้าหน้ากู้ภัยตราด นำชุดประดาน้ำเข้าทำการค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตเป็นเวลานานกว่า 1 ชม.ยังไม่พบตัว ขณะที่คลื่นลมแรงกว่าช่วงเกิดเหตุเนื่องจากอยู่ระหว่างน้ำทะเลขึ้น พร้อมยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวและรับประทานอาหารในช่วงเย็นโดยยังไม่ทรมบว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้น 

ต่อมา นายสุชาติ จิตรมุ่งมโนธรรม นายก อบต.บางปิด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำธงแดงมาติดตั้ง เพื่อเตือนห้ามนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำ ส่วนสาเหตุที่เพิ่งนำมาติดตั้งนั้น  

ขณะที่ นายสุชาติ กล่าวว่า อ่าวตาลคู่เพื่งเข้าสู่ช่วงมรสุม และได้เตรียมการและเตรียมคนเอาไว้แล้ว ที่จะนำธงแดงมาติดตั้งในพรุ่งนี้(วันจันทร์) แต่วันนี้เกิดเหตุเสียก่อน จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่นำมาติดตั้งเลย เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ และจากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า นักท่องเที่ยวไม่เชื่อฟังคำเตือนจากร้านค้าว่าไม่ให้ลงเล่นน้ำ เนื่องจากคลื่นลมแรง 

ส่วน นางพลับพลึง จุลเจริญ เจ้าของร้านอาหารอีสานโภชนา กล่าวว่า ผู้ประสบเหตุ ได้มาขอเช่าห่วงยางที่ร้าน แต่ตนเองไม่ได้ให้เช่า และแจ้งว่าห้ามลงเล่นน้ำ เนื่องจากคลื่นลมแรง ไม่นานทราบว่า มีคนจมน้ำ ตนเองจึงแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย อนึ่ง อ่าวตาลคู่เคยมีนักท่องเที่ยวจมน้ำไปและเสียชีวิตไปแล้วหลายคนและอีกหลายคนรอดชีวิต ซึ่งการเสียชีวิตครั้งนี้ล่าสุดเป็นระยะเวลาห่างกันไปนานกว่า 3 ปีแล้ว