หมายเหตุ : “วราวุธ ศิลปอาชา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” ถึงมุมมอง และจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา ในยามที่รัฐบาล “เศรษฐา1/1” กำลังเผชิญหน้ากับมรสุม หลายด้าน ท่าทีของพรรคจะเป็นอย่างไร
รวมถึง “จุดยืน” ของพรรคชาติไทยพัฒนา ต่อการผลักดัน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่บางฝ่ายมีข้อเสนอให้รวมเอาความผิด ในม.112 เข้าไว้ด้วยกัน ออกอากาศทางช่องยูทูบ Siamrathonline เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567
- มรสุมทางการเมืองที่รัฐบาลกำลังเผชิญ
คิดว่าพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ มีประสบการณ์ทางการเมืองนั้นมีมหาศาล มีบุคลากรที่เข้มแข็ง การเจอปัญหาต่างๆนั้น สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้วต้องถือว่าผ่านร้อน ผ่านหนาวมามาก ผมเชื่อว่าปัญหาที่ถาโถมเข้ามา ก็จะเป็นเหมือนอุปสรรคอีกด่านหนึ่ง ที่พรรคแกนนำ ร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพวกเรา ก็จะพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่าพวกเรา สามารถผ่านไปได้
แน่นอนว่าไม่มีรัฐบาลไหน ที่ไม่มีอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้ หรือรัฐบาลที่ย้อนหลังกลับไป ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น จนถึงสมัยรัฐบาลของคุณพ่อบรรหาร ศิลปอาชา ก็เจอปัญหาหนักเช่นกัน ไม่มีรัฐบาลไหน ที่ไม่เจอปัญหาหนัก เพราะตราบใดที่ยังมีความคิดต่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือยังคงมีปัญหาเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ปัญหาค่าครองชีพต่างๆ ปัญหาจะพอกพูนไป ซึ่งหนึ่ง บวกหนึ่ง จะไม่ใช่สอง แต่จะกลายเป็น หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสาม
ดังนั้นด้วยประสบการณ์ และบุคลากรที่เรามีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล ในรัฐบาล ผมเชื่อว่าปัญหาที่รัฐบาลกำลังประสบอยู่ ขณะนี้ ท้ายที่สุดก็จะผ่านไปได้ด้วยดี
-ถ้าอดีตนายกฯบรรหาร ศิลปอาชา คุณพ่อ ยังอยู่
จุดนี้ ผมต้องบอกตรงๆว่า ตอบไม่ถูก เพราะจนถึงวันนี้ พ่อจากไปเป็นเวลา 8 ปีกว่าแล้ว ช่วงเวลา นับตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2559 จนถึงวันนี้ 8 ปี หน้าของการเมืองไทย บริบทของการเมืองไทย เปลี่ยนไปชนิดที่เรียกว่ารวดเร็วมาก มีสิ่งใหม่ๆเข้ามามากมาย
ต้องเรียนว่าสมัยของคุณพ่อเองก็ไม่เคยเจอ ผมเองก็คุยกับคนที่เคยทำงานกับคุณพ่อ ไม่ว่าจะเป็นเลขาฯหรือทีมงาน เคยถามว่าถ้าเป็นแบบนี้ พ่อจะทำอย่างไร ก็จะได้รับคำตอบที่เหมือนกับทุกครั้งว่า “ไม่รู้” เพราะมันไม่เคยมีแบบนี้
ฉะนั้นถ้าถามว่าหากคุณพ่อยังอยู่ ผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการพูดคุยกัน ตกลงทำความเข้าใจกัน ซึ่งวันนี้เราก็เชื่อว่ามีการพูดคุยกันตลอด ในระดับผู้ใหญ่ ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน เราก็ยังมีความสามัคคีกัน มีความเหนียวแน่นกันอยู่
-จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา กับการนิรโทษกรรม ความผิดเกี่ยวกับคดี ม.112
สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา ต้องบอกว่าเราได้พูดไว้ตั้งแต่วันแรกเลย และล่าสุดก็ได้พูดอีก ก่อนเข้าประชุมครม.เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้เสนอชื่อคุณนิกร จำนง เข้าไปนั่งใน คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม และท่านยังเป็นเลขานุการของคณะกรรมการฯ โดยนโยบายที่เราได้มอบให้กับคุณนิกร และเป็นสิ่งที่พรรคเราเห็นตรงกันมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่พูดถึงเรื่อง ที่จะมีการร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. จะต้องไม่ไปเกี่ยวข้อง กับคดีม.112 ตามกฎหมายอาญา 2. จะต้องไม่ไปเกี่ยวข้องกับการนิรโทษคดีอาญาร้ายแรง และ3. จะไม่เกี่ยวกับคดีทุจริต คอร์รัปชั่น
และเมื่อมาถึงวันนี้ เราก็ยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลง และทราบว่าวันนี้ก็มีข้อเสนอต่างๆ เข้ามามากมาย แต่คณะกรรมาธิการฯยังไม่ได้ข้อสรุป เพียงแต่รับฟังความคิดเห็นจากหลายๆฝ่าย แล้วนำมาถกกันในคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งจากการรับรายงานล่าสุด จากคุณนิกร ก็ทราบว่ายังไม่มีข้อสรุป จะไปในทิศทางใดที่ชัดเจน ดังนั้นจึงยังเป็นเรื่องของกระบวนการอยู่
-เรามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้ความชัดเจน ได้พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่
ประเด็นนี้ต้องถามทางคณะกรรมาธิการฯ แต่จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา เราก็ยังเหนียวแน่นกับทั้ง 3 ประเด็น ดังกล่าว