การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี ที่มีผู้สมัครจำนวน 4 คน  ประกอบด้วย เบอร์ 1 นายชาญ พวงเพชร์ เบอร์ 2 นายอธิวัฒน์ สอนเนย เบอร์ 3 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และ เบอร์ 4 นายนพดล ลัดดาแย้ม ซึ่งคอการเมืองต่างก็จับตาไปที่คู่แข่งสำคัญระหว่าง ลุงชาญ นายชาญ พวงเพชร์ ผู้สมัครเบอร์ 1 และ บิ๊กแจ๊ส พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครเบอร์ 3 ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีตนายกอบจ.ปทุมธานี ทั้งคู่

แต่ดูเหมือนว่าการชิงชัยเก้านายกอบจ.ปทุมธานี เที่ยวนี้ ทางฝั่งของ บิ๊กแจ๊ส ต้องประสบปัญหาหนักขึ้น เมื่อกลุ่มคนที่เคยสนับสนุนจนสามารถคว้าชัยชนะได้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนขั้วเปลี่ยนข้างไปให้การสนับสนุนคู่แข่งคนสำคัญ อย่างลุงชาญ นายชาญ พวงเพชร ผู้สมัครเบอร์ 1 โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวว่าได้มีการแตกหักกับบิ๊กแจ๊ส แล้วหันไปสนับสนุนคู่แข่ง

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า พี่ทักษิณ ชินวัตร กับผม ผมยังคงเคารพรัก ระบบในโรงเรียนนายร้อยตำรวจเรา พี่เขารุ่น 26 ผมรุ่น 30 อย่างไงรุ่นก็ตามไม่ทัน ผมรุ่น 30 ก็ติดตัวผมจนตาย พี่ษิณรุ่น 26 ผมก็เป็นน้องเขาตลอดชีวิต แต่วันนี้การเมืองพี่เขาจะลงมาถล่ม ผมอย่างไงไม่มีปัญหา พี่เขาก็มีเหตุผลของเขา แต่ผมยืนยันว่าผมเป็นน้องเขาตลอดชีวิต แล้วผมจะเคารพนับถือเขาตลอดชีวิต ผมจะไม่มีไปละลาบละล้วง ไปด่าพี่ ไปว่าพี่ จะไม่มีออกจากปากผมโดยเด็จขาด ผมเคารพพี่เขาเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ใครจะพูดใส่ร้ายผมอย่างไร ซึ่งไม่เคยออกจากปากผม แล้วผมขออยู่แค่ท้องถิ่นผม ผมไม่ได้ไประดับประเทศ 

“ตลอดเวลาผมเคารพพี่เขาเหมือนเดิม ข้ามน้ำข้ามทะเลผมก็ไป ด้วยความรักความห่วงใย ด้วยความเป็นน้อง แต่มาวันนี้ผมมาอยู่ท้องถิ่น ผมไม่ทราบว่าพี่เขาอย่างไงก็แล้วแต่พี่เขา แต่ผมก็ยังคงเคารพรักพี่เขาเหมือนเดิม โดยที่ผมจะไม่เปลี่ยนคำพูดนี้โดยเด็จขาด ผมไม่เคยคิดร้ายกับพี่เขา ในทางการเมืองพี่เขาจะทำอะไรก็ทำผมไม่ว่า แต่ผมอยู่แค่ท้องถิ่นอยู่แค่ปทุมธานี หลังจากที่พี่เขากลับมาผมไม่ได้ติดต่อเลยเพราะว่า ผมไม่รู้ว่ามีใครไปใส่ร้ายอะไรผมไว้บ้าง ผมไม่รู้พี่เขาฟังใคร แต่ไม่เคยคุย หลายคนว่าปิดตำนานเพราะพี่ให้ จะปิดไปได้อย่างไง ตำนานคือตำนาน ตำนานจะต้องคงอยู่ แต่อนาคตใครจะคิดอย่างไงเราไม่รู้ ผมก็ยืนยันตามตำนานเดิมถ้าผมเปลี่ยนผมก็เลวเต็มที่

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนทำงานนายก อบจ.ปทุมธานี มา 3 ปี 3 เดือน เรามีผลงานอะไรบ้างพี่น้องประชาชนเขาเห็นอยู่แล้ว จึงคาดหวังว่าพี่น้องชาวปทุมธานีขอให้คิดถึงผลงานที่ของแต่ละท่าน เพราะนายก อบจ.อยู่ติดกับพี่น้องประชาชน อะไรที่เป็นปัญหาของประชาชน นายก อบจ.ต้องลงไปแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด แต่ถ้านายก อบจ.มัวแต่ไปสังกัดพรรค แล้วไปขอนโยบายพรรคว่าจะอย่างไง ผมถามว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนทันมัย จะต้องไปถามนโยบายพรรค แล้วพรรคจะรู้ดีกว่าคนที่ใกล้ชิดประชาชนหรือ ก็อยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ

“อย่างกรณีที่ผมเอาชีโนฟาร์มมาฉีดให้ประชาชน ผมยังต้องไปถามพรรคหรือ ในเมื่อประชาชนเดือดร้อน ผมต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเร็วที่สุด จะให้ประชาชนเดือดร้อนไปแล้ว จะค่อยมาหาจังหวะเยี่ยวยาแบบนี้ก็ไม่ใช่ ผมจึงมาลงอิสระครับ และผมถึงได้ลาออกไง ผมไม่ยอมให้ประชาชนเดือดร้อนแบบปี 54 แล้วผมไม่ช่วยไม่ได้ แต่ถ้าผมไม่ได้กลับมา เมื่อผมไม่ได้รับการเลือกตั้งกลับมา ผมก็กลับไปรักษาคนไข้ของผม”

และหลังจากที่มีกระแสข่าวว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ หลุดคำไม่เคยรู้จักแจ๊ส ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวน ซึ่งเรื่องนี้ย่อมสร้างผลกระทบให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  โดยบิ๊กแจ๊ส กล่าวว่า การหาเสียงเราก็ต้องมีความวิตกเป็นธรรมดาเนื่องจากเราไม่ได้มีพรรคการเมือง ไม่มีผู้ใหญ่หนุนหลัง แต่เราก็หวังสู้เพราะพี่น้องประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน แต่คู่ต่อสู้เรามีพรรคการเมืองหนุนหลัง มีหลายสิ่งหลายอย่าง หลายคนถามเข้ามาว่าวิตกไหมก็ตอบว่าวิตก แต่ในขณะเดียวกัน แนวทางการหาเสียงก็เหมือนกัน เหลืออีกเพียง 19 วัน เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเดินพบพี่น้องประชาชนทั้งหมด ก็ต้องใช้การแห่รถช่วย และสู้กับด้วยนโยบาย ในทีมหาเสียงผม ผมสั่งเลยว่าห้ามโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยเด็ดขาด จะไม่มีการโจมตีทุกคนที่ไปขึ้นรถพูดขอให้พูดเรื่องผลงานและนโยบายเท่านั้น เราสั่งชัดเจน ต่อจากนี้ไปก็อยู่ที่พี่น้องประชาชนแล้ว อยู่ที่ผลงานที่ผ่านมาว่าพี่น้องประชาชนจะรู้สึกอย่างไร ในช่วง3ปี3เดือนที่ผมทำงานก็เอาผลงานตัวนั้นเป็นข้อชี้วัด และอยู่ที่ปลายปากกาพี่น้องประชาชน

“กรณีที่ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่พูดว่า ไม่รู้จักแจ๊ส ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องของขนบทำเนียบประเพณีในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ น้องต้องรู้จักพี่ เข้าไปปีหนึ่งถ้าจำชื่อปีสองปีสามปีสี่จะโดนจวกโดนคัดชื่อ ถ้าเดินสวนกัน เขาถามว่าเขาชื่ออะไร ถ้าเราตอบไม่ได้ทันทีเลย ก็โดนทำโทษโดนคัดชื่อเป็นพันชื่อ สิ่งนี่ปลูกฝังกันมาเพราะน้องต้องจำพี่ให้ได้ แต่พี่ไม่จำเป็นต้องจำน้อง อยู่ที่บุคคลเท่านั้นอย่างไปคิดมาก อะไรที่แล้วมา พี่น้องประชาชนทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร เราเป็นน้องเราอย่าพูดดีกว่า แต่ความรู้สึกเราก็เคารพรักพี่เขาเหมือนเดิม”

ถึงแม้กระแสข่าวในเรื่องผู้สนับสนุนดูจะไม่เป็นใจ แต่บิ๊กแจ๊ส ก็เดินหน้าหาเสียงต่อเนื่องชูนโยบายและผลงานต่างๆตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่าที่ดำรงตำแหน่งนายกอบจ.ปทุมธานี  โดยการแจกแผ่นใบปลิวชูนโยบายและผลงานที่ผ่านมา ระบุถึงผลงานระดับจังหวัด ประกอบด้วย จัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กว่า 800,000 โดส (ซิโนฟาร์ม โมเดอร์น่า) , กำลังดำเนินการสร้างศูนย์การแพทย์ 3 แห่ง (คลองหลวง บ้านฉาง บางขะแยง) , ขุดลอกคูคลองกำจัดผักตบชวา , กำลังดำเนินการสร้างศูนย์พักพิงสุนัข-แมวจรจัด , สนับสนุนโรงเรียน วัด มัสยิด กีฬาทั่วจังหวัด , ถนน สะพาน ไฟทาง ทั่วจังหวัด และชูนโยบายปทุมธานีที่ต้องไปต่อ ได้แก่ สร้างศูนย์การแพทย์เพิ่ม 5 แห่งให้ครบทุกอำเภอลดความแออัดโรงพยาบาลอำเภอ , จัดตั้งศูนย์กู้ชีพฉุกเฉิน , สานต่อรถไฟฟ้าโมโนเรลเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าสายสีแดง (รังสิต) และสีเขียว (คูคต) , สนับสนุนการศึกษา กีฬา ศาสนา ประเพณีท้องถิ่นและจัดตั้งโรงเรียนเด็กพิเศษ พัฒนาถนน สะพาน ไฟทางที่อยู่ในความรับผิดชอบ อบจ.อย่างต่อเนื่อง

การเลือกตั้งชิงเก้าอี้นายกอบจ.ปทุมธานี ในครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่าการที่ บิ๊กแจ๊ส ที่ไร้กลุ่มการเมืองสำคัญหนุนหลัง ต้องหันมาชูนโยบายและผลงานช่วงที่ผ่านมาสู้ กับคู่แข่ง จะสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์เก่า นั่งเก้าอี้นายกอบจ.ปทุมธานีอีกสมัยได้หรือไม่ วันที่ 30 มิถุนายน 2567นี้ จะได้รู้กัน