ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล  กำหนดให้มีการจับกุมและปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนโดยเน้นการแพร่กระจายเข้าสู่สังคมและเป็นต้นเหตุของอาชญากรรมอื่น ๆ  จากการสืบสวนบังเอก เป็นหัวจ่ายยานรก ขาใหญ่ย่านอ่อนนุช

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.   พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์  รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช  ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์     ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ ,พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.  ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ,ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์, ร.ต.อ.พงศธร อารีย์, ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก,จ.ส.ต.ภาณุพงศ์ เวฬุวนารักษ์, ส.ต.อ.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ, ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา และ ส.ต.อ.ภาสกร บัวอ่วม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.ทำการจับกุมตัว นายขวัญ หรือบังเอก อ่อนนุช อายุ 38 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 371 ซอยอ่อนนุช 65 แยก 2 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

โดนกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน ) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย  อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ,มีวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 ( เคตามีน ) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน ) โดยผิดกฎหมาย , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”

 ตรวจยึดของกลาง ไอซ์ รวมจำนวน 8 ถุง น้ำหนักชั่งรวมถุง 37.13 กรัม , ยาบ้า 6,000 เม็ด,แฮปปี้วอเตอร์ชั่งรวมถุง น้ำหนัก 8.6 กรัม จำนวน 1 ถุง, ยาเคหรือคีตามีนชั่งรวมถุง น้ำหนัก 0.4 กรัม จำนวน 1 ถุง, วัสดุคล้ายอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ลูกซองสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 35 นัด, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 12 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 6 นัด, ช้อนตัก จำนวน 1 คัน,ถุงพลาสติกสำหรับแบ่งจำหน่ายจำนวน 1 ห่อ และเครื่องชั่งดิจิทัล จำนวน 1 เครื่อง อาวุธปืนขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด , และตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ ซัมซุง จากตัวผู้ต้องหาจำนวน 1 เครื่อง (รวมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 37.13 กรัม , ยาบ้า 6,000 เม็ด, ยาอี 10 เม็ด , แฮปปี้วอเตอร์ 8.6 กรัม ,ยาเค 0.4 กรัม , อาวุธปืนจำนวน 3 กระบอก , กระสุนปืนรวมจำนวน 59 นัด , และวัสดุคล้ายอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก จับกุมตัวได้ที่  บริเวณลานจอดรถ คอนโดภายในซอยอ่อนนุช 57 ถนนอ่อนนุช แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

โดยพฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าได้มี นาย บังเอก อ่อนนุช ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ พักอาศัยอยู่ ในคอนโด ซอยอ่อนนุช 57ฯ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด , มีพฤติกรรมพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุน และซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในห้องพัก จึงได้รายงานให้   พล.ต.ต.ธีรเดช  ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เพื่อจะทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายบังเอก อ่อนนุช จะออกจากที่พัก ไปส่งยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจัดกำลังไปเฝ้าสังเกตที่บริเวณ ที่จอดรถจักรยานยนต์ หน้าคอนโดเทล ซอยอ่อนนุช 57ฯ และบริเวณใกล้เคียง จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบบังเอก สวมเสื้อวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสีส้ม เดินลงมาจากอาคารที่พัก มาขึ้นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีดำ ตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอทำการขอตรวจค้นตัว ผลการตรวจค้นตัว พบ ยาอี เม็ดสีเหลือง ลักษณะกลมแบน จำนวน 10 เม็ด อยู่ในกระเป๋าเสื้อวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ข้างซ้าย ที่นายขวัญฯ สวมใส่อยู่ โดยนายขวัญฯ รับว่าเป็นยาอีของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายขวัญฯ เพื่อจะไปตรวจสอบที่ห้องพัก ชั้น 8 โดยนายขวัญฯ ยินยอมและสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้น 

ผลการตรวจค้นพบ ไอซ์ รวมจำนวน 8 ถุง น้ำหนักชั่งรวมถุง 37.13 กรัม , ยาบ้า 6,000 เม็ด, แฮปปี้วอเตอร์ชั่งรวมถุง น้ำหนัก 8.6 กรัม จำนวน 1 ถุง, ยาเคหรือคีตามีนชั่งรวมถุง น้ำหนัก 0.4 กรัม จำนวน 1 ถุง, วัสดุคล้ายอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ลูกซองสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 35 นัด, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 12 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 6 นัด, ช้อนตัก จำนวน 1 คัน,ถุงพลาสติกสำหรับแบ่งจำหน่ายจำนวน 1 ห่อ และเครื่องชั่งดิจิทัล จำนวน 1 เครื่อง

จากนั้นได้พาตัวผู้ต้องหา มาตรวจค้นที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ พบ อาวุธปืนขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด , และตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ ซัมซุง จากตัวผู้ต้องหาจำนวน 1 เครื่อง (รวมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 37.13 กรัม , ยาบ้า 6,000 เม็ด, ยาอี 10 เม็ด , แฮปปี้วอเตอร์ 8.6 กรัม ,ยาเค 0.4 กรัม , อาวุธปืนจำนวน 3 กระบอก , กระสุนปืนรวมจำนวน 59 นัด , และวัสดุคล้ายอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก

ต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดที่โรงพยาบาล พบเป็นผลบวก (เมทแอมเฟตามีน) จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า  “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน ) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย  อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ,มีวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 ( เคตามีน ) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน ) โดยผิดกฎหมาย , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหารับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง ส่วนอาวุธปืนได้มาจากเพื่อนซึ่งได้ถูกจับกุมในคดีอื่นไปก่อนหน้านี้ โดยผู้ต้องหามักจะเอาอาวุธปืน .357 ไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ขับไปพร้อมกับขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ต้องหาเริ่มต้นเสพยาบ้าและจำหน่ายมาประมาณ 10 ปี นอกจากขับรถจักรยานยนต์รับจ้างแล้ว ตนยังลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับบุคคลในชุมชนย่านที่ตนพักอาศัยและในย่านอ่อนนุช รายได้วันละประมาณ 3,000 บาท โดยจะส่งยาเสพติดด้วยตนเอง 

จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหา พบประวัติต้องโทษคดีต่าง ๆ รวม 4 คดี ได้แก่ 
1) คดีอาญาที่ 1181/2557 สน.ลาดกระบัง ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) และขับรถเสพเมทแอมเฟตามีน, ร่วมกันฆ่า, ร่วมกันมีและอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน, ร่วนกันบุกรุก และร่วมกันทำร้ายร่างกาย” 
2) คดีอาญาที่ 192/2558 สน.จรเข้น้อย ข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” 
3) คดีอาญาที่ 381/2564 สน.อุดมสุข ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  
4) คดีอาญาที่ 1222/2564 สน.พระโขนง ข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”  

นำส่ง  สน.ประเวศ ดำเนินคดีต่อไป


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สืบสวนจับกุมคนร้ายที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่เน้นการแพร่กระจายเข้าสู่สังคมอันเป็นการตัดวงจรต้นเหตุของอาชญากรรมอื่น ๆ  จึงขอเตือนภัยไปยังผู้ที่จะทดลองเสพยาเสพติดหรือจำหน่ายยาเสพติดทุกชนิด ล้วนมีผลเสียต่อตนเองและครอบครัว อีกทั้งยังสร้างความเสียหาแก่สังคมส่วนรวม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน