ผู้สมัครสว.สมุทรสาครมีหนาว กกต.ตรวจพบส่อขาดคุณสมบัติจ่อดำเนินคดีหลายราย
วันที่14มิถุนายน พ.ศ.2567ที่สำนักงาน กกต.จว.สมุทรสาคร โดย นายพงษ์พัชร์ สายช่างทองผู้อำนวยการเลือกตั้งสั่ง เข้มตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกเป็นสว. ปรากฎ ว่าที่ผ่านด่านการเลือกระดับอำเภอขึ้นมาแล้ว อาจไม่ผ่านด่านคุณสมบัติจำนวนหลายราย ส่อพบว่าขาดคุณสมบัติซึ่งจะต้องถูกลบชื่อและถูกดำเนินคดี และต้องโทษตามกฎหมาย มาตรา 13 และมาตรา 14 แห่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 เช่น เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ามีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา เช่น ฐานลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ เป็นต้น ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เป็นเจ้ามือ หรือเจ้าสำนัก ตามกฎหมายยาเสพติด ฐาน ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า หรือเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ ข้อ 61 ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 วางหลักไว้ว่า “ ในระหว่างการดำเนินการเลือกไม่ว่าระดับใด หากผู้อำนวยการการเลือกตรวจสอบแล้วเห็นว่า ผู้สมัครหรือผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอหรือผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดผู้ใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม หรือถูกจำกัดสิทธิ หรือสมัครมากว่าหนึ่งกลุ่ม หรือมากกว่าหนึ่งอำเภอหรือแสดงข้อมูลในใบสมัครหรือเอกสาร หรือหลักฐาน ประกอบการรับสมัครอันเป็นเท็จ ให้ถือว่าผู้สมัครผู้นั้นกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
กรณีตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้อำนวยการการเลือกที่พบเหตุดังกล่าวสั่งลบชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครหรือบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกจากการเลือกระดับอำเภอหรือบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกจากการเลือกระดับจังหวัด แล้วแต่กรณี และเสนอเรื่องให้คณะกรรมการสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกของผู้สมัครผู้นั้นไว้เป็นการชั่วคราวเป็นเวลาไม่เกินหนึ่งปี และให้นำความในข้อ 60 มาใช้บังคับโดยอนุโลมมาตรา 74 ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุใด ได้สมัครรับเลือก
ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอน
สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี
ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ให้ศาลมีคําสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดํารงตําแหน่งดังกล่าว
ให้แก่สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภาด้วย
โดยหลักฐานทั้งหมดที่ทางกกต.ตรวจพบปรากฎว่ามีหลายรายที่ขาดคุณสมบัติที่จะต้องถูกลบชื่อออกตัดสิทธิและจะทำการดำเนินคดีโทษตามกฎหมายต่อไป