กกต.เปิดโต๊ะแถลงพร้อมส่งบัญชีพยานหลักฐานเพิ่มทำตามคำสั่งศาลรธน. ยันทำตามกฎหมายทุกประการ ปมยื่นคำร้องยุบก้าวไกล บอกตอบไม่ได้ควรมีการยุบพรรคหรือไม่ ด้าน"บิ๊กทิน" ไม่วิตก 18 มิ.ย.นัดพิจารณา "4คดีสำคัญ" เชื่อผลออกมาบวกหรือลบ "ประเทศ-รัฐบาล" ไปต่อได้
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67 นายปกรณ์ มหรรณพ , ดร.ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. และนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ กกต.ส่งบัญชีพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในคดียื่นร้องยุบพรรคก้าวไกล โดย นายปกรณ์ กล่าวว่า กกต.จำเป็นต้องยื่นคำร้องดังกล่าว เพราะถ้า กกต.ไม่ยื่นอาจมีความผิดตามกฎหมายได้ โดยการยื่นคำร้องของ กกต.ครั้งนี้ เป็นการยื่นตามมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 จึงไม่มีเหตุให้ต้องไต่สวน เพียงแต่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าเท่านั้น กกต.ต้องปฏิบัติตาม ถามว่ากรณีนี้เคยมีเรื่องอื่นหรือไม่ ขอตอบว่า กกต.ได้ปฏิบัติลักษณะเดียวกันกับพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยรับคำร้องไว้พิจารณาในลักษณะเดียวกัน
นายปกรณ์ กล่าวว่า สิ่งที่จะทำความเข้าใจกับสื่อและประชาชนตามที่หลายฝ่ายกล่าวอ้างว่าทำไม กกต.ไม่แจ้งข้อกล่าวหา คือระเบียบการไต่สวนของ กกต. มี 2 ฉบับ ฉบับแรกใช้ทั่วไปตามฉบับปี 2561 กรณีที่ต้องดำเนินการตามมาตรา 93 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ เป็นเรื่องที่ปรากฎต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่ามีการกระทำดังกล่าว นายทะเบียนจึงรวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน พร้อมความเห็นเสนอต่อ กกต. ระเบียบดังกล่าว ใช้เฉพาะกรณีมาตรา 93 การออกระเบียบนี้อาศัยตามมาตรา 93 ระบุไว้ชัด ไม่เกี่ยวกับมาตรา 92 ที่ความปรากฎต่อนายทะเบียน นายทะเบียนจะดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน เพื่อเสนอความเห็นต่อ กกต. การดำเนินการตามมาตรา 93 ของนายทะเบียนจะแจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง นี่คือความแตกต่างกันระหว่างมาตรา 92 และมาตรา 93 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
นี่คือสิ่งสำคัญที่อยากจะทำความเข้าใจ กับประชาชน และสื่อมวลชน เพื่อให้เรื่องนี้กระจ่าง มีคำถามมากเหลือเกินที่เข้ามาว่า เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ กกต.พุดคุยกันมาก และตอบได้อย่างเดียวว่ากกต.ไม่สามารถตอบได้ กกต.เป็นผู้ปฏิบัติ ต้องเคารพตามกฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมาย จะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ไม่ได้ แต่เมื่อใดมีผู้ไม่เห็นด้วยกับกฎหมาย และแก้กฎหมาย เช่นไม่มีการบัญญัติในเรื่องยุบพรรคการเมือง เมื่อนั้น กกต.แม้แต่จะคิดก็ยังไม่กล้า นี่คือสิ่งที่เราทำตามกฎหมาย และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง บางครั้งอาจจะเกิดความเข้าใจสับสนบ้าง แต่สิ่งที่เราอยากแถลงให้สื่อทราบ ให้ประชาชนทราบ ก็คือเราทำตามกฎหมายทุกอย่าง ผลจะเป็นประการใด เราเคารพ และรับฟังปฏิบัติตามดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญเต็มที่ นายปกรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หัวหน้าพรรคก้าวไกลจะส่งคลิปการให้สัมภาษณ์ของประธาน กกต.ที่ยอมรับว่าดำเนินการข้ามขั้นตอน จะต่อสู้ประเด็นนี้อย่างไร นายปกรณ์ กล่าวว่า สิ่งนี้ต้องดูภาพรวมทั้งหมดของคำให้สัมภาษณ์และแถลง ไม่ใช่ตัดเฉพาะบางส่วนออกมา นี่ก็ฝากสื่อมวลชนด้วย เมื่อถามอีกว่า คำให้สัมภาษณ์ของประธาน กกต.ยืนยันว่าดำเนินการตามกฎหมายใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ทำตามมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ทุกประการ
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล ชี้แจงว่ากรณีของพรรคก้าวไกล กับ ทษช.ไม่เหมือนกัน เพราะตอน ทษช.ยังไม่มีระเบียบใหม่ที่ กกต.รองรับนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้อยู่ที่ศาลแล้ว เราเป็นผู้กรณี ไม่อาจมีความเห็นอย่างไรได้เลย เราเคารพศาลอย่างยิ่ง เมื่อถามว่า บัญชีพยานหลักฐานที่จะยื่นในคำสั่งศาล มีรายละเอียดอะไรบ้าง นายปกรณ์ กล่าวว่า เราได้ทราบคร่าว ๆ แต่รอติดต่อแล้ว ขอหนังสือที่ชัดเจนว่าจะระบุอย่างไร แล้วเราจะรีบปฏิบัติตามคำสั่งศาล แต่วันนี้ยังไม่เห็นหนังสือ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคก้าวไกลชี้แจงแนวทางต่อสู้คดี ระบุว่าเรื่องนี้ควบรวมมาตรา 93 ด้วย นายปกรณ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นความเห็นของคู่กรณี ส่วนในชั้นของ กกต.เป็นเรื่องมาตรา 92 ที่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า เมื่อ กกต.มีหลักฐานควรอันเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น จบแค่นี้ ส่วนมาตรา 93 เมื่อปรากฎต่อนายทะเบียนว่า พรรคการเมืองใดกระทำการตามมาตรา 92 ให้รวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน เสนอความเห็นต่อ กกต. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกต.กำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดระบุไว้ชัดตามมาตรา 93 เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ บัญชีพยานจะมี กกต. หรือประธาน กกต.เป็นพยานด้วย นายปกรณ์ กล่าวว่า อันนี้แล้วแต่ผู้ดำเนินการ ผู้ที่จะพิจารณา
ด้าน นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วันที่ 18 มิ.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาหลายคดีสำคัญทางการเมือง ว่า ตนไม่รู้ว่าแต่ละคดีจะจบอย่างไร แต่เชื่อว่าสังคมมีระบบรองรับในทุกคดี หากคดีต่างๆ ส่งผลกระทบต่อการเมือง การเมืองก็มีระบบเดินหน้าต่อไป ซึ่งส่วนตัวไม่วิตกในทุกคดีที่ว่ามา หากตั้งสมมติฐานในทางที่เลวร้ายไว้ ตนก็เชื่อว่ายังเดินหน้าได้
เมื่อถามว่า รัฐบาลมีโอกาสจะปรับ ครม.หรือไม่ หลัง 4 คดีผ่านพ้นไป โดยเฉพาะหากพรรคก้าวไกลถูกยุบ สส.จะต้องเข้าสังกัดพรรคอื่นภายใน 60 วัน นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบในกรณีนี้ และเพิ่งผ่านการปรับ ครม.มา จึงเชื่อว่าไม่น่าจะปรับบ่อย เพราะจะเกิดปัญหา ตนเชื่อว่าปัจจุบันนี้ทุกอย่างยังไปได้อยู่ ซึ่งตนดูสมมติฐานแล้วทั้ง 4 คดี ไม่ว่าจะออกมาเป็นด้านลบหรือบวก เชื่อว่าทุกอย่างสามารถเดินหน้าไปได้ตามกลไกและระบบของตัวเอง รัฐบาลและประเทศยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ อาจจะมีเรื่องตื่นเต้นนิดหน่อย ถือเป็นธรรมดา ถือว่าเป็นรสชาติ และไม่ห่วงคดีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณี 40 สว.ยื่นถอดถอนออกจากจากตำแหน่ง และไม่ได้บอกว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ได้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวส.ส.ภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไปให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า ไปให้กำลังใจท่านเรื่องอะไร เพราะท่านมีกำลังใจดีอยู่แล้ว ตนในฐานะเป็นเลขาพรรค และในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีรัฐมนตรีถึง 2 ท่าน ตนยังไม่ได้ข่าว และส.ส.ในช่วงนี้มีการลงพื้นที่ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน ดังนั้นเราอย่าไปตามกระแสที่คิดและคาดการณ์ เดา และเข้าใจกันเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพล.อ.ประวิตรบ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนคุยกับทุกฝ่าย เราในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราต้องมีมารยาททางสังคม และขณะเดียวกัน ก็ได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคตลอดเวลา ขอให้อย่าคิดมาก ให้ดูใบหน้าของตน เมื่อถามว่า มองสถานการณ์เช่นไร เพราะภายในพรรคมีเสียงแตกขนาดนี้ จะมีการมัดรวมอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มัด มันเป็นไปตามสถานการณ์ และเป็นเหตุการณ์โดยบังเอิญ อย่าไปคิดมาก เพราะไม่มีใครรู้ดีเท่าตน ผมเป็นรัฐมนตรีและเป็นรัฐบาล ใครจะรู้ดีเท่าผม อย่าไปคิดเอง ให้ฟังนักวิชาการวิเคราะห์ไปต่างๆ นาๆ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การวิเคราะห์ของนักวิชาการที่ออกมาค่อนข้างน่ากลัวมาก ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ให้ดูใบหน้าตน ตนสบายๆ ลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชนถือว่าเป็นงานของเรา ประชาชนเลือกเรามา เราต้องทำงานให้ประชาชน และอย่าทำให้บ้านเมืองมันแตกแยกมากกว่านี้เลย
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ไม่กังวล สบายๆ ไม่มีอะไรน่ากลัว และทุกอย่างเป็นไปตามกลไก เราเป็นฝ่ายรัฐบาลก็ต้องพร้อมในการตรวจสอบ อย่าไปคิดมาก ตนโดนอะไรมาเยอะ ตนยังผ่านมาถึงทุกวันนี้ได้
สำหรับพรรคพลังประชารัฐมีการเตรียมแผนไว้รองรับกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นของฝ่ายรัฐบาลหรือไม่นั้น พรรคร่วมรัฐบาลมีการพูดคุยกันตลอดเวลา เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะใช้โอกาสการรับประทานข้าวพรรคร่วมพบเจอหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ท่านได้มอบหมายให้ตนเข้าร่วม โดย พล.อ.ประวิตรไม่สะดวกที่จะเข้าร่วม และเป็นเช่นนี้มาตลอดอยู่แล้ว ขออย่าไปคิดมาก
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พล.อ.ประวิตร ได้มีการสั่งการหรือกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มี จะมีแต่กำชับให้ สส.ดูแลพื้นที่และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตนเองให้ดี และดูแลผู้สมัคร ส.ส. ที่อยู่ในแถว 2 มีคะแนนเสียง 2 หมื่นคะแนนดูแลพื้นที่ให้ดี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกระทรวงเกษตรฯ ทั้งหมด