เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.67 ที่เมรุวัดโพธิ์ศรี บ้านโพธิ์ศรี ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ญาติๆและเพื่อนร่วมเรียนได้นำร่างอันไร้วิญญาณของ น.ส.สุภัชตรา อายุ 22 ปีที่ตกจากท้ายรถบิ๊กไบค์ ซึ่งเพื่อนชายเป็นผู้ขี่และถูกรถบรรทุกเหยียบซ้ำจนเสียชีวิต เกิดเหตุ เมื่อเช้าวันที่ 9 มิ.ย.ที่ถนนหน้าปั๊ม ปตท.ใหญ่สุด ต.บางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เขตอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรีนั้น
หลังจากญาติได้ขอความช่วยเหลือมูลนิธิสมาคมสายธารสะพานบุญนำร่างอันไร้วิญญาณของสาวผู้เคราะห์ร้ายออกจากโรงพยาบาลอำเภอเขาย้อย มาส่งที่บ้านเกิดในจังหวัดบึงกาฬ ได้ทำพิธีสวดมาติกาบังสุกุลอยู่ 3 วันจึงได้มีวิธีฌาปนกิจวันนี้โดยมีญาติพี่น้องแขกเหรื่อและเพื่อนร่วมเรียนม.ปลายโรงเรียนโพนทองพิทยาสรรค์มาร่วมส่งดวงวิญญาณในครั้งสุดท้ายนี้ กว่า 200 คนท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของญาติๆ เพื่อนโดยเฉพาะนางอิงอรผู้เป็นแม่ที่ได้แต่ร้องไห้เสียใจตลอดเวลาญาติๆ ต้องคอยปลอมใจและยังเป็นลมหลายครั้งบอกว่ามีลูกเพียง 2 คนคนโตเป็นผู้ชายส่วนน้องเล็กก็คือผู้เสียชีวิตนี่เอง
ทางด้าน น.ส.สุดาพร และ น.ส.พีรดา 2 สาวพี่น้องพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คนกับผู้ตายระหว่างที่ทำงานเป็นสาวขายเครื่องสำอางที่ห้างดังแห่งหนึ่ง โดย 2 สาวลูกพี่ลูกน้องกันเป็นผู้ที่ไปติดต่อประสานงานกับร.ต.ท.นราธิป ศรีอาจ ร้อยเวร สภ.เขาย้อย และนำร่างของน้องสาวกลับมาฌาปนกิจที่บ้านเกิดนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีว่าทางพนักงานสอบสวน สภ.เขาย้อยนั้น ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดแล้วทราบว่ารถที่มาเหยียบทับร่างซ้ำจนน้องเสียชีวิตเป็นรถหัวลาก ซึ่งมีชื่อบริษัทและเห็นทะเบียนรถชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะชื่อคนขับก็ทราบเช่นกันอยู่ระหว่างการออกหมายเรียกเพื่อมาให้ปากคำ เวลาผ่านไปถ้าออกหมายเรียก 2 ครั้งแล้วยังไม่มาแสดงตนหรือให้ปากคำ พนักงานสอบสวนก็จะออกหมายจับต่อไป
ด้านนายตะวัน แก้วกุล ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงและดูแล น.ส.สุภัชตรา ผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่ยังเล็กนั้น ได้กล่าวว่า วันนี้เพื่อนชายของน้องสุภัชตรา รับปากว่าจะมาร่วมส่งวิญญาณครั้งนี้ด้วย แต่รอแล้วไร้เงาไม่เห็นมาตามที่รับปากกันไว้ โทรไปครั้งสุดท้ายก็ปิดโทรศัพท์หนีด้วย รู้เสียใจแทนน้องเขาอยู่ ส่วนเรื่องคดีตนได้โทรศัพท์แจ้งพนักงานสอบสวนว่าขอทำการฌาปนกิจศพน้องเสียก่อนและก็ 2 วันทำบุญเสร็จก็จะลงมาที่เขาย้อยเพื่อมาติดตามเรื่องคดีและเดินเรื่องเงินประกันชีวิต ซึ่งหลักฐานทั้งหมดก็ได้มาครบแล้วทั้งประจำวัน ใบชันสูตร ใบรับรองการตายและในมรณะบัตร หากพนักงานสอบสวนได้แจ้งคู่กรณีได้มาเจรจากันก็คงจะไม่เป็นเรื่องยุ่งยากอะไร เพราะก็ทราบอยู่แล้วว่ามันเป็นอุบัติเหตุให้ใช่เรื่องเจตนาทำให้เสียชีวิตแต่อย่างใด จึงอยากจะขอฝากถึงคู่กรณีได้ช่วยมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อเรื่องทั้งหลายจะได้จบง่ายขึ้นโดยดี