ผบ.ทบ. ติดตามสถานการณ์ชายแดน จ.น่าน ย้ำใช้ศักยภาพกำลังพลและสิ่งอุปกรณ์ที่ได้รับอย่างเต็มที่ พร้อมตรวจเยี่ยม รพ.ค่ายสุริยพงษ์ พัฒนางานสายแพทย์เพื่อกำลังพลและประชาชน
วันนี้ (๑๓ มิ.ย.๖๗) พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก นำคณะผู้บังคับบัญชาและเจ้ากรมฝ่ายเสนาธิการตรวจเยี่ยมกองกำลังผาเมืองในพื้นที่ จ.น่าน และ จ.พะเยา โดยมีกำหนดการ ๒ วัน คือ ๑๓ - ๑๔ มิ.ย.๖๗ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการทหารบกได้เดินทางมาพบปะเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบนโยบายให้กับทางหน่วยไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๖ มี.ค.๖๗ ที่ผ่านมา โดยในวันแรกคณะได้เข้าเยี่ยมชมอนุสาวรีย์วีรกรรม พลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อสดุดีวีรกรรมของวีรชนในอดีต ที่ได้สละชีวิตร่วมกันต่อสู้เพื่อปกป้องราชอาณาจักรไทยจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ก่อนเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ทหารกลางแจ้ง อนุสรณ์สถาน ๑๗ ทหารกล้า ณ ฐานปฏิบัติการ ๑๗ ทหารกล้า (ฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นเก่า) อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ซึ่งในอดีตทหารไทยทั้ง ๑๗ นาย ได้ต่อสู้เพื่อรักษาฐานแห่งนี้ไว้ได้ และปัจจุบันกองทัพบกได้ร่วมกับ จ.น่าน ปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้บทเรียนจากการรบในอดีต “ยุทธภูมิบ้านห้วยโก๋น” ให้กับกำลังพล ครอบครัว ประชาชนและเยาวชนทั่วไป
จากนั้นคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานของกองกำลังผาเมืองและหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๓๒ ณ กองบังคับการกองร้อยทหารพรานที่ ๓๒๐๒ ฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋น ซึ่งดูแลรับผิดชอบระหว่างชายแดนไทยกับ สปป.ลาว และเมียนมา โดยผู้บัญชาการทหารบกได้รับฟังการบรรยายสรุปของหน่วยในการปฏิบัติตามพันธกิจ ๕ ประการของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้แก่ การเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน, การเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน, การแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน, การประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และการปฏิบัติในพื้นที่ระวังป้องกัน รวมทั้งภารกิจอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งกองกำลังผาเมืองยังคงติดตามประเมินสถานการณ์ชายแดนทั้ง ๒ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดทางหน่วยได้จัดตั้งกองบังคับการควบคุมกองกำลังผาเมืองด้านลาว เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งในและระหว่างพื้นที่ชายแดน ขณะเดียวกันหน่วยได้รายงานผลการแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้ให้การสนับสนุนให้กับหน่วยปฏิบัติ อาทิ โดรนตรวจการณ์, เครื่องค้นหาด้วยดาวเทียม, กล้อง Action Camera บนหมวก และกล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว พร้อมรายงานผลการสกัดกั้นจับกุมสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ โดยเฉพาะยาเสพติดได้รวมกว่า ๓๐๐ ครั้ง ยึดของกลางเป็นยาบ้า ๑๔๗.๒ ล้านเม็ด เฮโรอีน ๒๕๖.๖ กก. ไอซ์ ๑,๒๔๘.๓ กก. ฝิ่น ๑๗๙.๕ กก. และคีตามีน ๒๙.๒ กก. ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน (๒๕๖๖) สามารถจับกุมยาบ้าได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า ๓ เท่า คือจาก ๔๒ ล้านเม็ด เป็น ๑๔๗.๒ ล้านเม็ด และยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีรายงานกำลังพลได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบโอวาทให้กับกำลังพลกองกำลังผาเมือง “ขอให้ใช้ศักยภาพในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบตามแนวชายแดนอย่างเต็มที่ พร้อมประสานร่วมกับส่วนราชการ ฝ่ายปกครองและประชาชนในพื้นที่ชายแดนอยู่สม่ำเสมอ โดยต้องไม่มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันขอให้ใช้สิ่งอุปกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับสภาพภารกิจอย่างเต็มขีดความสามารถ ภายใต้คู่มือการปฏิบัติงานฯ ที่หน่วยได้พัฒนาปรับปรุงขึ้นใหม่ เพื่อให้กำลังพลทุกนายสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างถูกต้องตามหลักกฎหมาย และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน”
จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังจุดตรวจร่วม บ.แหน อ.ท่าวังผา จ.น่าน เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากมณฑลทหารบกที่ ๓๘ ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบในพื้นที่ จ.น่าน พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงาน ก่อนเดินทางไปยังโรงพยาบาลค่ายสุริยพงษ์ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบกที่ได้นำศักยภาพของทหารเหล่าแพทย์ในการดูแลรักษากำลังพล ครอบครัวและประชาชนในพื้นที่ จ.น่าน ร่วมกับผู้ว่าราชการ จ.น่าน และคณะมูลนิธิรักษ์ป่าน่าน ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยได้เยี่ยมชมภายในอาคารผู้ป่วยนอก (หลังใหม่) ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากทางมูลนิธิรักษ์ป่าน่านฯ ในการก่อสร้างอาคาร เพื่อรองรับผู้รับบริการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกได้ตรวจสถานที่ สิ่งอุปกรณ์ และพบปะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รวมทั้งผู้ป่วย พร้อมรับฟังและสอบถามปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อพิจารณาแนวทางในการพัฒนางานสายแพทย์ของกองทัพบกอย่างเหมาะสม ก่อนที่จะร่วมปลูกต้นสัก (จากป่าสักนวมินทราชินี) เพื่อเป็นที่ระลึกให้กับทางหน่วยต่อไป