“ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ Anti online scam (AOC) อย่างต่อเนื่อง บุกรวบชายหนุ่มขายบัญชีม้าให้กับแก๊ง call center ผู้เสียหายเข้าแจ้งความหลายพื้นที่ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีม้าเกือบ 30 ล้าน ”
 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ. ) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. พ.ต.อ.จักรกริช เสรีบุตร  รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.
 
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.หญิง วณิชยา ไชยปรุง สว.กก.2 บก.ปอศ. , ร.ต.อ.หญิง ชนิสรา หนองหารพิทักษ์ รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ด.ต.สุฤทธ์ ขุนอินทร์ , ด.ต.วรวุฒิ ลักขณา, จ.ส.ต.ภัทรพล สุขรัตน์ และ  ส.ต.อ.ชัยวัฒน์ มหาโพธิ์ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ.
 
ร่วมกันจับกุม นายสมวิชัยฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.510/2566ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566  ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบคอมพิวเตอร์ซึ่งที่บิดเบือนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายแต่ละคนโดยตรง” สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่งใน ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
 
พฤติการณ์ เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่มีมากในปัจจุบัน ตามปฏิบัติการ Anti Online scame (AOC) ที่มีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการสืบสวนติดตาม บุคคลตามหมายจับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดให้ดำเนินการ กก.2 บก.ปอศ. จึงได้ทำการสืบสวน จนสืบทราบว่า นายสมวิชัย ฯ ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับขบวนการหลอกลงทุนในเงินดิจิทัล แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเครือข่ายพนันออนไลน์ โดยได้รับเงินค่าจ้าง เป็นเงิน 3,000 บาท เปิดทั้งสิ้น 2 บัญชี ทั้งนี้มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชี และกลุ่มที่ร่วมกันก่อเหตุ หลายท้องที่ ทั้งพื้นที่สุพรรณบุรี , นนทบุรี และขอนแก่น ต่อมาพนักงานสอบสวน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่บริเวณหน้าบ้านใน ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง จึงได้เดินทางไปดักรอในบริเวณดังกล่าว และเมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวจับกุมบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเปิดบัญชีม้าเพื่อแลกกับเงิน ค่าจ้าง 3,000 บาท ต่อ 2 บัญชี ซึ่งขายในกับคนที่รู้จักกันที่อยู่หมู่บ้านข้างเคียง และทราบว่าบัญชีดังกล่าว ถูกใช้ในขบวนการ call center เมื่อไปตรวจสอบในบัญชีก่อนที่จะโดนอายัด มีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท และ ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความให้การว่าโดนหลอกลงทุนให้ซื้อสินทรัพย์ดิจิตอล
 
เตือนภัย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด โดยเน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากการถูกหลอกลวงฉ้อโกงออนไลน์ รวมถึงป้องกันปราบในคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และเทคโนโลยีทุกรูปแบบ