"นายกฯ" โยน"รมว.คลัง"ชี้ขาดใครนั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ ยัน "กิตติรัตน์" หมดสิทธิ์ เหตุนั่งที่ปรึกษาของนายกฯ ย้ำรัฐบาลเดินหน้าแก้เศรษฐกิจ ขณะที่ "กกร." เคาะต่ออายุสินค้า-บริการควบคุม 57 รายการอีก 1 ปี ไฟเขียวยกเลิกคุมราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน

    
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายปรเมธี วิมลศิริ ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ใกล้หมดวาระ รัฐบาลได้เตรียมบุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งแทนหรือยัง ว่า ไม่ทราบ ต้องถาม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ตนยังไม่มีการคุยเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของการจัดตั้ง
    
เมื่อถามถึงกระแสข่าว นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จะมานั่งเก้าอี้ดังกล่าวแทน นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะนายกิตติรัตน์เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอยู่ ถ้าเกิดจะมาเป็นก็ต้องปลอดจากตำแหน่งไป 1 ปี     เมื่อถามอีกว่า คนใหม่ที่จะมานั่งแทนจะต้องมีแนวนโยบายเดียวกับรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายพิชัย
    
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องเศรษฐกิจตอนนี้ถือเป็นหนึ่งเดียวกันหรือยังกับหน่วยงานต่างๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า จิตวิญญาณของรัฐบาลนี้เราเป็นหนึ่งเดียวกันตลอด และทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม สภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีการพูดคุยกันตลอด ภาษาวงสนทนาที่ใช้ก็เป็นคำพูดที่ตนคิดว่าผู้หลักผู้ใหญ่เข้าใจกันได้ คุยกันรู้เรื่อง
    
เมื่อถามว่า แม้ว่าไม่ลดดอกเบี้ย เรายังคงมีการเดินหน้าในการสร้างเศรษฐกิจใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเดินหน้าตลอดเวลาอยู่แล้ว ตนพยายามที่จะทำทุกอย่าง หากติดขัดตรงไหนเราก็พยายามอ้อมไปอีกทางหนึ่ง เรายึดข้อกฎหมายเป็นที่ตั้ง และยึดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้าไม่ได้ทางนี้เราก็ไปอีกทางหนึ่งให้ได้ ไม่เอามาเป็นข้ออ้างหรือคำอธิบายว่าทำไมถึงไม่ได้ ก็ต้องทำงานกันต่อไป
    
วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 11มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมมีมติต่ออายุสินค้าและบริการควบคุมทั้ง 57 รายการ ใน 11 หมวด ต่อไปอีก 1 ปี เพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตามเจตนารมย์ของกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ซึ่งกำหนดมาตรการดูแลทางด้านปริมาณและราคาในสินค้าและบริการ 11 หมวด ประกอบด้วย 1.กระดาษและผลิตภัณฑ์ 2.บริภัณฑ์ขนส่ง 3.ปัจจัยทางการเกษตร 4.ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 5.ยารักษาโลกและเวชภัณฑ์ 6.วัสดุก่อสร้าง 7.สินค้าเกษตรสำคัญ 8.สินค้าอุปโภคบริโภค 9.อาหาร 10.อื่นๆ 11.บริการ
    
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบยกเลิกมาตรการกำหนดราคาน้ำตาลทราย ณ หน้าโรงงาน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เสนอ เนื่องจากสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังคงให้เป็นสินค้าควบคุมตามเดิม ถ้ามีความจำเป็นก็จะกำหนดมาตรการเข้าไปกำกับดูแลได้ โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป เพื่อต่ออายุรายการบัญชีสินค้าและบริการควบคุมไปอีก 1 ปี
    
ที่ประชุมยังเห็นชอบให้แสดงราคาจำหน่ายสินค้าและบริการ ณ จุดจำหน่าย ใน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. ช่องทางออฟไลน์ จำนวน 290 รายการ (240 สินค้า 50 บริการ) 2. ช่องทางออนไลน์ 3. มาตรการแสดงราคารับซื้อสินค้าเกษตร 33 รายการ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบด้วย