จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6 โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “เจ้าหน้าที่เจ้าของพื้นที่ตรวจสอบป้องปรามด่วน… ผู้ปกครองกังวลใจและอาจมีอันตรายกับน้องๆนักเรียน รบกวนหน่วยงานช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบได้ไหมค่ะ บุคคลในภาพเป็นคนอันตรายค่ะ อาละวาดหน้าโรงเรียนวัดเฉลิม แถวท่าน้ำนนท์ สภ.บางศรีเมืองนะคะ แจ้งว่ายังจับไม่ได้ อยากให้ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบและเฝ้าหน้าประตูโรงเรียนคะ เมื่อเช้าเห็นแล้วก็ตกใจเหมือนกันค่ะ อันตรายมากจริง อยากให้เอาออกจากชุมชนด้วยค่ะ เพราะเขาอยู่ใกล้ๆโรงเรียนเลยค่ะ แค่อยู่ในชุมชนก็น่ากลัวแล้ว วันนี้ดันไปเจอว่าเดินเข้าโรงเรียนลูกเราอีก เป็นห่วงมาก ดีที่ครูๆช่วยกันคุมและพาออก มันอยู่ในซอยวัดเฉลิมซอย 19 ครับ เมื่อวานมันเดินถอดเสื้อมันพกมีดด้วยครับ มันติดยา แกล้งบ้าชอบอยู่บ้านอีปลาซ.19 เรื้อนไปวันๆ เหี้ยจริงๆ ควรจะจัดการแม่งแบบจริงๆนะ คนเหี้ยแบบนี้ ขืนปล่อยไว้ไม่ใครก็ใครตายเพราะมันยิ่งไปที่โรงเรียนยิ่งอันตรายเด็กเล็กทั้งนั้น”

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 มิ.ย.67 พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางศรีเมือง ได้เชิญตัวนายแบงค์ อายุ 31 ปี ที่ก่อเหตุเดินเข้าไปในโรงเรียน และอาละวาดเสียงดัง สร้างความหวาดกลัวให้กับคุณครู และเด็กนักเรียนภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงวัดเฉลิมพระเกียรติ ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พร้อมมารดา เข้ามาพูดคุยและช่วยเกลี่ยกล่อมเพื่อให้นายแบงค์สงบสติอารมณ์ จนนายแบงค์อารมณ์เย็นลง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวไปรักษาที่รพ.ศรีธัญญา โดยมีมารดาได้ติดตามไปส่งตัวนายแบงค์ถึงรพ.ด้วย

นายแบงค์ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนเดินเข้าไปในโรงเรียนจริงเพื่อไปตามหาสุนัขชื่อ “วีดู” ให้เพื่อน และขออนุญาตคุณครูเข้าไป ซึ่งคุณครูเข้าไปพร้อมกับตน ตนไม่ได้โวยวายแต่เข้าไปสวดมนต์คาถาชินบัญชร เพราะในโรงเรียนไหว้พระกันอยู่ ตนพอเข้าใจว่าเข้าไปแล้วเด็กกลัว ไม่ได้ไถเงินเด็กแต่ขอไว้กินข้าว ตนไม่เคยไปแถวสนามฟุตบอล สาบานได้ว่าไม่เคยไถเงินเด็ก ตนเลิกยาเสพติดหมดทุกอย่างแล้วกินแต่ยาประจำตัว ตนเป็นคน EQ ต่ำ และเป็นดาวน์ซินโดรม ถ้าเกิดทางโรงเรียนกลัวตนจะไม่เข้าไปอีก ตนไม่ได้เดินไปมาตลอด ตอนนี้อยู่บ้านเพื่อน และไปหาแม่อยู่บ่อยๆ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปป่วนในโรงเรียน ตอนนี้ยังไม่เจอสุนัข เจอแต่ตำรวจ วันหลังก็จะไม่เข้าไปในโรงเรียนอีก

นายบอล อายุ 31 ปี เพื่อนนายแบงค์ กล่าวว่า นายแบงค์จะมาแถวนี้วันเว้นวัน ตนไล่แล้วก็มาอีก พอมาก็ช่วยกวาดบ้านถูบ้านบ้าง แต่ไม่ยอมกลับ ซึ่งคนแถวนี้ก็เดือดร้อน อยากให้แก้ไขกฎหมายคนบ้าควรมีข้อยกเว้น สามารถจับติดคุกได้ หากสร้างความเดือดร้อน เวลาจะเข้ามาหาตนก็มีการใช้ยาเสพติดมาก่อน ดูอาการรู้เพราะตนเคยผ่านมาก่อน เดินไปไหนก็แลบลิ้นมา ใครเห็นก็กลัว ตนไม่รู้ว่าไปไถเงินใครมา รู้แต่เวลาควักเงินออกมาแล้วตนถามว่าเอามาจากไหนก็จะบอกว่าขอคนแถวบ้านมา ตนพยายามสอนในทางที่ดีตลอด พอชวนไปงานด้วยกันก็ไม่เอา แต่ก่อนนายแบงค์กินยารักษาอาการที่เป็นอยู่ แต่ตอนนี้ไม่เคยเห็นกินยาเลย เพราะเวลากินยาจะมีอาการอาเจียน ตนไม่ทราบเรื่องที่เข้าไปในโรงเรียน รู้แค่เดินตามเพื่อนไปอีกฝั่งและพาสุนัขไปด้วย ตนมาเจออีกทีก็อยู่กับตำรวจแล้ว ปกติไม่เคยเข้าไปในโรงเรียน แต่นายแบงค์มีอาการโหวกเหวกโวยวายตลอด ชาวบ้านแถวนี้รู้กันหมด และไม่ได้อยู่แถวนี้แต่จะเรียกรถ นั่งแท็กซี่มาเอง ไม่จ่ายค่ารถเขาอีก ถ้าพาไปรักษาเดี๋ยวก็ออกมาใหม่ ตนไม่ได้ให้มาแต่ห้ามไม่ได้ คงต้องคุยกับแม่นายแบงค์คงดีที่สุด ตอนนี้ไม่ให้มาวุ่นวายแล้ว ตนแจ้งตำรวจจนตำรวจเหนื่อยแล้ว พยายามคุยกับนายแบงค์ดีๆ บางทีก็ยอมกลับ ซึ่งตนเป็นเพื่อนนายแบงค์ตั้งแต่อนุบาลเลยรู้จักกันดี

น.ส.อุไรวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี แม่ค้าร้านชำ กล่าวว่า บางวันนายแบงค์ก็มาไถเงิน ขอเงิน ขอบุหรี่ มาป่วนร้านขายของตน เด็กๆในชุมชนก็กลัว นายแบงค์ก็ดูรู้ว่าใครอ่อนแอกว่า ซึ่งถ้าใครแข็งแรงกว่าก็จะไม่ยุ่ง ถ้าไม่ได้ตามใจก็จะด่า เกรี้ยวกราด หยาบคาย บางทีก็ถือไม้มา แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ถือมาเพราะกลัวสุนัขหรือไม่ เพราะเวลาสุนัขเห็นก็จะเห่าตลอด นายแบงค์ไม่เคยทำร้ายร่างกายใคร มีแต่ด่าทอ เสียงดังโวยวาย ส่วนเรื่องการไถเงินเด็กน่าจะมี ขนาดตนยังเคยเจอ ขอ 20 บาท บอกหิวข้าว แรกๆตนก็ให้เพราะสงสารแต่หลังๆมาตนว่ามันไม่ใช่ เพราะถ้าไม่ได้ตามใจก็จะเกรี้ยวกราด และให้ตนไปยืมป้าร้านค้าให้ ซึ่งตนบอกว่าไม่ได้ แล้วก็มาด่าหยาบ ขู่กรรโชก ชี้หน้าเรียกมึง ตนทราบว่านายแบงค์เคยเสพยาจนสภาพจิตเป็นแบบนั้น ตนเข้าใจ แต่คิดว่าสมองคงไม่เสียหาย 100% ต้องค่อยๆคุย และใช้จิตวิทยา แต่พอเขาไม่ได้ดั่งใจก็อารมณ์ขึ้น ตนต้องคอยระวังตัว ไม่ด่าทอกลับและเดินห่างออกมา เพราะเรารู้ว่าเขามีสภาวะป่วยทางจิต เราจะดูแลตัวเองยังไงถ้ามีผู้ป่วยออกมาเพ่นพ่าน และทำลายคน ทำลายข้าวของ ถ้าตำรวจนำตัวไปรักษาแล้วก็รู้สึกโล่ง ทุกคนบอกเหมือนเอาภูเขาออกจากอก ตนขอบคุณทุกคน ขอบคุณพี่ๆตำรวจ รู้ว่าทุกคนเหนื่อย

พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง กล่าวว่า ตนได้ส่งสายตรวจลงพื้นที่ไปดูคนที่อาจจะมีสภาพจิตไม่ปกติและเชิญตัวมาโรงพัก ได้เรียกคุณแม่มาพูดคุยซึ่งคุณแม่อยากให้นายแบงค์ได้รับการบำบัด จึงให้พูดคุยกับพนักงานสอบสวนแล้วทำเรื่อง ทำหนังสือบันทึกประจำวันและนำตัวไปส่งที่รพ.ศรีธัญญา ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทางคุณแม่ ตนดูด้วยสายตานายแบงค์มีอาการไม่ค่อยปกติ ไม่แน่ใจว่าป่วยเป็นอะไร จึงถามคุณแม่ได้แจ้งว่าน่าจะมีโรคทางประสาท และทางจิต จึงอยากให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทำการรักษาให้ ซึ่งตนไม่ทราบว่านายแบงค์ก่อเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้งแค่ไหน หลังจากนี้จะไปประเมินอาการจากรพ.ศรีธัญญา ทางรพ.คงให้การรักษาจนสามารถใช้ชีวิตร่วมกับสังคมได้ ตนให้ความมั่นใจว่าทางสภ.บางศรีเมือง จะเข้าดูแลและช่วยเหลือประชาชนทันที อย่างรวดเร็ว พยายามทำหน้าที่ให้เต็มที่ที่สุด จากกรณีที่นายแบงค์เข้าไปที่โรงเรียน ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฝ้าสังเกตการณ์ และเชิญตัวมาที่ห้องสืบสวนโดยเร็วที่สุด