จากกรณีทีมกฎหมายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมายังอัยการสูงสุดแล้ว เพื่อยื่นเหตุผลเพิ่มเติมคัดค้านคำสั่งฟ้อง ในคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.67 นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า "ขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า ในฐานะเป็น อสส. ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญานอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ไม่เคยมีใครสั่ง ข่มขู่ โน้มน้าว ชักจูง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวนครับ"
ต่อมา นายตระกูล ได้โพสต์ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด "ส่วนที่ ๖ การร้องขอความเป็นธรรม" พร้อมข้อความว่า "ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาฯ เกี่ยวกับ #การร้องขอความเป็นธรรม พร้อมระบุว่า ไม่ว่า ใครจะทำอะไร อย่างไร ผลลัพธ์เป็นประการใด ก็ขอให้เกรงใจและเคารพในหลักนิติธรรม (The rule of law ) และความยุติธรรม (Justice) ด้วยนะครับ"
โดย ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนที่ ๖ การร้องขอความเป็นธรรม ระบุว่า ....
ข้อ ๖๕ การสั่งคดีกรณีร้องขอความเป็นธรรม
กรณีผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาหรือบุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์ของผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อหนักงานอัยการโดยกล่าวอ้างว่าผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการให้หนักงานอัยการพิจารณารับคำร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าวไว้พิจารณา ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ต้องหาซึ่งได้รับการปล่อยชั่วคราวหรือลงลายมือชื่อรับทราบวันนัดไว้ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ผู้ต้องหานั้นต้องแสดงตนต่อพนักงานอัยการในขณะยื่นหนังสือ
การร้องขอความเป็นธรรม หากเป็นประเด็นที่ผู้ร้องเคยขอความเป็นธรรมและพนักงานอัยการได้เคยพิจารณาไว้แล้ว หรือ มีลักษณะเป็นการประวิงคดีให้ล่าช้า ให้ทำบันทึกข้อความเสนอความเห็นพร้อมเรื่องร้องขอความเป็นธรรมและสำเนารายงานการสอบสวน เสนอตามลำดับชั้นถึงอธิบดีอัยการพิจารณาสั่งยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมนั้น
ให้พนักงานอัยการพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยให้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอันสำคัญแก่คดีที่จะนำไปสู่การพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาได้
คดีที่มีการร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีที่จะมีคำสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหาหรือบางข้อหา ให้ทำความเห็นในสำนวนแล้วเสนอตามลำดับชั้นถึงอธิบดีอัยการเพื่อพิจารณาสั่งทั้งคดี เมื่อธิบดีอัยการมีคำสั่งประการใดให้ปฏิบัติตามนั้น
กรณีที่มีคำสั่งฟ้องทุกข้อหา ให้ดำเนินการให้ได้ตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องต่อศาล และให้รีบทำบันทึกข้อความส่งคำร้องขอความเป็นธรรม สำเนาความเห็นและคำสั่งพร้อมทั้งสำเนารายงานการสอบสวนเสนออธิบดีอัยการเพื่อทราบ
กรณีในวรรคห้า หากเป็นกรณีที่ต้องกลับความเห็นหรือกลับคำสั่งเดิม หรือต้องถอนฟ้อง ให้นำความในวรรคสามของข้อ ๑๐ หรือข้อ ๑๓๒ มาใช้บังคับแล้วแต่กรณี
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ตระกูล วินิจนัยภาค
#ทักษิณ #ข่าววันนี้ #อัยการสูงสุด #มาตรา112