หนุ่มใหญ่วัย 49 ปีลงหาปลาหาหอยเช้าตรู่น้ำเย็นจัดทำให้ขาเป็นตะคริวจมน้ำดับ รายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.30น.ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองบึงกาฬได้รับแจ้งจาก  ผู้ใหญ่บ้าน ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ว่าเกิดเหตุคนจมน้ำตายที่ฝายน้ำล้น บ้านนาแวง ร.ต.ท.ณัฐชนน ซื่อตรง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ จึงได้ประสานกับ นพ.พีระพัฒน์ วงษ์สุทโธ แพทย์เวร รพ.บึงกาฬ ออกไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยร่วมใจบึงกาฬ ที่เกิดเหตุห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนร่างผู้ตายชาวบ้านได้ช่วยกันลงงมหาเจอแล้วนำขึ้นมาไว้บนถนนก่อนที่จะนำเข้าไปไว้ที่บ้านผู้ตาย ทราบชื่อว่า นายองอาจ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี อยู่หมู่ที่ 8 บ้านนาแวง สภาพศพสวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีชมพูกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่พบบาดแผลใดๆตามร่างกาย

สอบถามพี่สาวทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายออกจากบ้านไปหาปลาและงมหอยขมที่ฝายน้ำล้นบ้านนาแวง ซึ่งมักจะออกไปเป็นประจำตอนเช้าตรู่และจะกลับบ้านตอนสายๆของทุกวัน

ทางด้าน ผู้ใหญ่บ้าน ให้การว่าหลังจากผู้ตายลงหาปลาและงมหอยขมอยู่ตรงหน้าผายน้ำล้นโดยว่ายน้ำไปเองเพื่อจับปลาและงมหอยขมมาขาย ระหว่างนั้นเพื่อนบ้านที่ไปด้วยกันเห็นผู้ตายดำน้ำงมหอยอยู่ตั้งนานไม่โผล่ขึ้นมาสักที จึงมั่นใจว่าอาจจะเกิดเหตุร้าย จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบและประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านออกไปช่วยกันงมหาใช้เวลาอยู่ประมาณ 20 นาทีโดยใช้ไม้ไผ่ยั่งดูความลึกประมาณ 2.50 เมตร พอลากไม้ไผ่ไปมาพบว่าสะดุดร่างผู้ตาย จึงได้ให้ชาวบ้านที่ไปหาด้วยกันดำน้ำลงไปนำร่างขึ้นมาบนบกและก็นำไปเก็บไว้ที่บ้านเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจและหมอมาชันสูตรพลิกศพ การเสียชีวิตครั้งนี้ของนายองอาจเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจเป็นตะคริวเนื่องจากอากาศเย็นและน้ำลึกประกอบกับมีฝนตกตลอดทั้งวันและคืนมาหลายวันแล้วทำให้ร่างกายผู้ตายทนความเย็นไม่ไหว จึงเกิดเป็นตะคริวที่ขาและจมน้ำดับอนาถดังกล่าว ญาติไม่ติดใจในเหตุการณ์ตายในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพไปตั้งบกบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.