วันที่ 11 มิถุนายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนจำนวนมากจากพลังศรัทธาของศิษยานุศิษย์ ชาวบ้านและนักเรียนมาเข้าแถวกราบสรีระ “หลวงปู่ภา” กันแน่นวัด โดย เจ้าคุณพระปริยัติธาดา (เจ้าคุณสมนึก) ลูกศิษหลวงปู่ภาบอกว่า หลวงปู่ได้ละสังขารอย่างสงบ ท่านทราบมาก่อนแล้ว ท่านจึงมีการเตรียมความพร้อมไว้ทุกอย่าง ได้สั่งเสียไว้ให้เป็นเรื่องสำคัญว่า หลังท่านละสังขารไม่ต้องจัดงานใหญ่ ไม่ต้องเก็บร่างไว้นาน เพราะไม่อยากให้ลูกศิษย์และชาวบ้านต้องเดือดร้อนให้จัดงานอย่างเรียบง่าย
ส่วนโลงไม้สักท่านเคยปรารภไว้เมื่อครั้งไปงานที่วัดละหารไร่ ท่านได้เห็นโลงไม้สักท่านจึงแจ้งความประสงค์ว่าชอบโลงนี้ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาลูกศิษย์จึงได้จัดเตรียมให้ แม้ว่าจะมีราคาไม่ธรรมดาเลย
ด้านไวยาวัจกร บอกว่าหลวงปู่ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยหนักถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาล แต่อย่างใด ท่านยังทำกิจวัตรปกติ ช่วงเย็นยังให้คนดูแลพาออกไปดูสนามฟุตบอลและตรวจดูบริเวณต่างๆที่วัด เหมือนเช่นทุกวันกระทั่งท่านเข้านอน แต่พอรุ่งเช้าจึงพบว่าท่านไม่ตื่น ตรวจดูไม่มีชีพจร ก็รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ท่านก็มรณภาพแล้ว คณะกรรมการวัด ตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดจึงได้เห็นว่าท่านนอนและหลับไปเอง เหมือนเป็นการละสังขาร ท่านไม่ได้ห่วงสิ่งใดอีกแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าด้วยความศรัทธาในความเมตตาที่หลวงปู่ปฏิบัติตลอดช่วงเวลาที่บวชและเป็นเจ้าอาวาสวัดตาขัน ได้สร้างวัด สร้างโรงเรียนสร้างมหาวิทยาลัย สร้างทีมนักกีฬาเยาวชน มีผลงาน จนได้เป็นพระนักพัฒนาที่มีเมตตาธรรมสูง ทำให้ มีพุทธศาสนิกชนและลูกศิษย์จากทั่วประเทศ หลั่งไหลมาร่วมพิธีกันหนาแน่นและไม่พลาดกับการนำเลขที่เกี่ยวข้องหลวงปู่ไปลุ้นโชคโดยเฉพาะเลขฝาโลงไม้สักราคา800,000บาท มีเลข คือ 986