นายกฯ เรียกถก พรรคร่วมฯ เตรียมความพร้อม ศึกอภิปรายงบฯ 68 แจง คดียุบพรรคก้าวไกล ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร เผยส่งคำชี้แจง ศาลรัฐธรรมนูญแล้วตอนนี้ยังมีอำนาจเต็มทำงานได้ อุบแนวทางสู้คดี ปัดประเมินการเมือง มิถุนาเดือด บอกไม่รู้ ทักษิณ หมายถึงใคร บ้านในป่าเชื่อไม่กระทบความสัมพันธ์พรรคร่วม ชี้ไม่จำเป็นต้องคุย บิ๊กป้อม ส่วน ภูมิธรรม เชื่อไร้ปัญหาขัดแย้ง พรรคร่วมฯ
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้(10มิ.ย.)นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียกพรรคร่วมรัฐบาลหารือถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า คงจะต้องหารือกันก่อนว่าอภิปรายกันอย่างไร และใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุด ซึ่งไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วงนี้ที่ได้รับแจ้งมา ถ้าไม่ลงรอยจะมาทำงานด้วยกันได้อย่างไร
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ได้ส่งคำชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้วตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มิ.ย.67) พร้อมขออย่าถามว่ากังวลหรือไม่ เพราะตนกังวลตลอดเวลา ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ขอให้อยู่ในขั้นตอนของศาลก็แล้วกัน
ผมยังไม่ขอเปิดเผยแนวทางการต่อสู้ และขอใช้คำว่าชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าบอกไป หากฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายตุลาการมีคำถาม เราเป็นฝ่ายบริหารก็ต้องชี้แจงไป เราก็ต้องให้ความเคารพ หากขาดข้อมูลอะไรท่านก็เรียกมา
เมื่อถามว่าหลายคนประเมินว่าเดือนมิถุนายน เป็นเดือนที่มีสถานการณ์การเมืองหลายอย่าง นายกฯ ประเมินสถานการณ์ไว้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ ตนขอเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฝ่ายบริหาร ส่วนเรื่องของตนก็ส่งคำชี้แจงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ยังมีอำนาจเต็มก็ยังทำงานได้ ซึ่งก็ต้องคอยดูว่าทางศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไร
เมื่อถามว่า มองว่าจะเป็นเดือนอันตรายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ชัดเจนออกมา เรื่องพวกนี้อยู่ในเรื่องของการเมือง
นายเศรษฐา ยัง กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคนบ้านในป่าฯ ทำวุ่นวาย จะกระทบต่อตัวนายกฯและพรรคร่วมรัฐบาลในการทำงานร่วมกันหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าตนได้พูดไปแล้วเมื่อวาน (9 มิ.ย.2567) การสื่อสารพูดคุยของแต่ละคน ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทุกคนมีความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง แต่ละคนก็มีข้อมูลแตกต่างกันไป หน้าที่ตนในฐานะแกนนำรัฐบาลของพรรคร่วมรัฐบาล เรามีปัญหาอะไรก็มีหน้าที่ต้องมาพูดคุยกัน
เมื่อถามว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานและสามารถพูดคุยกันได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องพูดคุยกันก่อนว่ากระทบหรือไม่กระทบ ต้องดูถึงขั้นที่สองขั้นที่สามที่จะตามมาแต่ในฐานะผู้นำรัฐบาลเราก็มีความประสงค์ที่จะให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ดี ซึ่งมาถึงวันนี้อยู่ด้วยกันมาก็ต้องมีข้อเห็นต่างบ้าง เราก็ต้องมาพูดคุยในส่วนที่เห็นต่างว่าจะแก้ไขอย่างไร
เมื่อถามว่า การให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ มีการพูดพาดพิงไปถึงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้เกิดความหมางใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายทักษิณ หมายถึงใคร
เมื่อถามย้ำว่าในทางการเมืองก็รับรู้ว่าคนบ้านในป่าฯ หมายถึงบ้านของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ และตนไม่เคยเจอพล.อ.ประวิตร ทุกครั้งเป็นการพูดคุยผ่านตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นน้องชายพล.อ.ประวิตร และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตร และสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร โดยตรงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ไม่จำเป็น" เมื่อถามว่าในวันนี้ช่วงบ่ายจะมีการพูดคุยกันของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ เข้าใจว่ากำหนดการนี้ไม่ได้อยู่ในตาราง
เมื่อถามย้ำว่า เป็นการพูดคุยกันในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า บางทีการพูดคุยกันในลักษณะนี้ดีกว่า เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่ในการพูดคุยกันมากขึ้น ในบางอย่างที่ตนทำให้ไม่เหมาะสมเขาอาจจะไม่กล้าพูดกันก็ได้ และวิธีการที่เราจะแก้ไขปัญหาก็มีหลายวิธีมาพูดคุยกันโดยตรงหรืออ้อมไปอีกทางก็จะนิ่มนวลกว่า และไม่ทำร้ายจิตใจซึ่งกัน และกัน และตนคิดว่านี่เป็นหลายวิธีที่เราพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ส่วน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า นายทักษิณบอกว่าพูดเฉยๆ ไม่รู้ว่าคนในป่าคือใคร เราอย่าไปวิจารณ์ในสิ่งที่ไม่รู้ว่านายทักษิณ คิดอะไร และคงพูดยาก วันนี้ทุกคนต้องช่วยกัน บางประเด็นที่เป็นเรื่องความเห็นต่างบางประเด็นที่เป็นเรื่องค้าง ส่วนในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องการทำให้จบ ก็ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามย้ำว่าการที่นายทักษิณพูดเช่นนี้ จะทำให้กระบวนการต่อสู้คดี รวมถึงคดีของนายเศรษฐา เกิดความยุ่งยากขึ้นหรือไม่นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันเลยสิ่งที่นายทักษิณพูด และเป็นเรื่องปกติที่คนเราเมื่อมีความเห็นในเรื่องต่างๆก็แสดงออก เป็นเรื่องของนายทักษิณ ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองและใครทั้งสิ้น ส่วนสถานการณ์ของนายกฯและคดีต่างๆเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครไปแทรกแซงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าการแสดงความเห็นในมุมหนึ่งอาจเป็นการต้องการดักทางขณะที่อีกมุมหนึ่งอาจเป็นผลเสียมากกว่า นายภูมิธรรม กล่าวว่า คิดมากเกินไป ไม่ต้องไปคิดมาก นายทักษิณพูดออกมาลอยๆ ไม่ได้มีอะไรแต่ถ้าจะถามว่ามีความคิดเห็นอย่างไรหรือคิดอะไรต้องถามจากนายทักษิณ เราเป็นคนฟัง ส่วนตนฟังจากสื่อ ไม่ได้ฟังจากปาก ฉะนั้นอย่าไปคิดอะไรแทน ขอเป็นเรื่องปกติอย่าไปคิดอะไรเยอะ
เมื่อถามว่าจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่พอใจหรือไม่ที่ไปกล่าวถึงคนบ้านป่าในลักษณะนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่เห็นมีพรรคร่วมไหนที่ไม่สบายใจ ยังเจอและคุยโทรศัพท์กันเป็นปกติ
เมื่อถามย้ำว่าในทางการเมืองเข้าใจว่าบ้านป่า หมายถึงบ้านใคร นายภูมิธรรมกล่าวย้อนว่า ถ้าไม่ได้บอกบ้านป่า แต่บ้านในป่า หมู่บ้านที่ไหนท่านก็พูดชัดเจน จากในทางการเมืองหรือทางปกติ ถ้ายังไม่ชัดเจนและเป็นการพูดลอยๆอย่าไปตีความ เพราะตีความได้หลายอย่าง ไปตีความแล้วก็เกิดปัญหา
เมื่อถามว่าจะไม่มีปัญหาอะไรกับพรรคร่วมใช่หรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มียังธรรมดาและเป็นปกติ และพรรคร่วมก็เจอกันอยู่บ่อยๆ