สมชาย ปูดอีกเลือก สว.ทั่วประเทศฮั้วอื้อ มีโพยฝึกกาก่อนเข้าคูหา แฉ 2 สส.พรรคใหญ่ในอีสานจัดเลี้ยงก่อนวันเลือก ด้าน อนุทิน ชี้ ภาพรวมเลือก สว. ทั่วประเทศเรียบร้อยดี เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย กกต.เตรียมประกาศผลชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นสว.ระดับอำเภอ ภายใน 3 วันก่อนเลือกระดับจังหวัด
       
     

     เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2567 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่าตามที่คณะกรรมการและผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอได้ดำเนินการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับอำเภอ เสร็จสิ้นแล้ว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมาผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ จะจัดทำประกาศผลการนับคะแนน โดยให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม เป็นผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอสำหรับกลุ่มนั้น เพื่อไปดำเนินการเลือกในระดับจังหวัดต่อไป และดำเนินการประกาศบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ จำนวน 2 ชุด โดยส่งให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด ปิดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอ และเผยแพร่ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ซึ่งจะเผยแพร่ในแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต (Smart Vote) และทางเว็บไซต์ของสำนักงาน กกต. ก่อนวันเลือกระดับจังหวัดไม่น้อยกว่า 3 วัน
    
 โดยผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอหรือผู้ที่ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอมอบหมาย จัดทำเอกสารหรือข้อมูลแนะนำตัวของแต่ละกลุ่มที่อยู่ ภายในเขตอำเภอของตน จากระบบบริหารจัดการการเลือก พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอมารับเอกสาร เพื่อให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอนำมาในวันเลือกระดับจังหวัด
    
 ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ ได้ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกต. https://senator.ect.go.th/ หรือ แอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต (Smart Vote) และ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสายด่วน 1444
    
 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงภาพรวมของการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ถือว่าเรียบร้อยดี การเลือกอีกรอบในสัปดาห์หน้า ก็หวังว่าจะเรียบร้อย ต้องฝากชื่นชมผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนายอำเภอ ที่ถือว่าเป็นผู้บริหารจัดการให้การคัดเลือก สว.ในด่านแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตนไม่ได้รับรายงานถึงความยุ่งยากยุ่งเหยิงแต่อย่างใด เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย
    
 เมื่อถามว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงในการเลือก สว.สัปดาห์หน้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อยู่ที่การวางแผน เพราะเราเป็นคนบริหารกระบวนการขั้นตอนต่างๆ ให้เกิดความเรียบร้อยยุติธรรม ส่วนการเลือกเป็นเรื่องของการเลือกกันเอง
   
  ส่วน ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สว. ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกสว.ระดับอำเภอเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ตนยืนยันว่ามีขบวนการขนคนไปสมัครสว. ได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปแล้ว หลักฐานปรากฏได้จากการตรวจลงคะแนนทุกอำเภอทุกกุล่ม ซึ่งจะพบว่ามีคนได้คะแนน 0 คะแนนเยอะมาก ซึ่งช่องว่าเกิดจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมมนูญ ซึ่งการได้มาของสว. ที่บอกว่า ผู้สมัครเลือกตัวเองก็ได้ไม่เลือกตัวเองก็ได้ จึงทำให้เกิดขบวนการขนคน คน 25,000 คน ที่คาดการณ์ว่า ขนมาเพื่อใช้จ้างวาน เกณฑ์มาเลือก ได้กระทำการเต็มที่แล้ว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระดับอำเภอ ไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และประสบการณ์ 10 ปี จริง ปล่อยให้ประกาศกกต.ว่าลักษณะอื่นทำนองเดียวกัน เข้ามาสมัครได้ ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อเป็นสว. ได้กระทำการสำเร็จคือเป็นผู้มาเลือกสว.  ซึ่งทำให้ได้คะแนนที่ออกมาบิดเบี้ยว ในบางกลุ่มจังหวัด ก็จะเห็นประมาณ 5 คะแนน มี 3-4 คน ที่เกาะเป็นกลุ่ม บางกลุ่ม 8-10 คะแนน ซึ่งชัดเจน ดังนั้น กฎหมายที่เปิดช่องว่างคือพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ เป็นอำนาจที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในอนาคต
   
  นายสมชาย กล่าวต่อว่า รวมถึงประกาศกกต. ที่ทำให้สามารถกระจายกลุ่มคนรับจ้าง หรือที่จัดตั้งมา ไปอยู่ในกลุ่มต่างๆเพื่อโหวตตรงและโหวตไขว้ได้ และที่สำคัญคือนอกจากการไม่ตรวจ ประสบการณที่รับรองกันเอง ซึ่งจะเห็นว่าเป็นเท็จเยอะมาก เช่น ทำอาชีพรับจ้าง ก่อสร้าง ทำนา เลี้ยงไก่ หรือกลุ่มศิลปะเหล่านี้เมื่อเลือกเสร็จก็กลับบ้าน โดยกกต.ไม่มีการตามติดต่อภายหลัง ซึ่งผิดวิสัยของการตรวจสอบทุจริต และสิ่งที่น่าจะทำให้การเลือกมีปัญหาคือการอนุมัติให้นำเอกสารที่เรียกว่า สว.3 เข้าคูหา หมายความมว่าเอาโพยเข้าห้องสอบได้ ซึ่งตนทราบว่ามีการซ้อมกาหมายเลขต่างๆ ในเซฟเฮ้าส์ก่อนหน้าที่จะถึงวันเลือกสว. และนำเอกสารที่ซ้อมกาหมายเลขไว้ เข้าคูหาด้วย ซึ่งสามารถไปดูกล้องวงจรปิดได้ทุกอำเภอว่ามีบุคคลนำเอกสารเข้าคูหา อย่าลืมว่าในอดีตกกต.เคยมีคดีหันคูหาให้สื่อมวลชนถ่ายวีดีโอมาแล้ว ดังนั้น ตนจึงคิดว่ากระบวนการเลือกสว.ขั้นที่ 1 น่าจะมีปัญหา ส่วนบุคคลที่รับจ้างมาหายไปแล้ว 2 หมื่นกว่าคน ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่เหลืออยู่จะฮั้วหมด อาจจะมีการหลุดรอดออกมาได้ ดังนั้น ต้องจับตาต่อในการเลือกระดับจังหวัด ซึ่งจะปรากฎเห็นชัดขึ้นว่าจะมีการฮั้วบล็อกโหวตหรือไม่ ซึ่งตรงนี้กลุ่มการเมืองและกลุ่มที่จัดตั้งเท่านั้นที่จะผ่านเข้ารอบ  และเมื่อถึงระดับประเทศ ก็จะถึงบางอ้อเองว่า คนที่ได้สว.มาอย่างไร ซึ่งตนไม่ได้กล่าวหาคนที่มาด้วยความบริสุทธิ์ แต่ยืนยันว่าถ้าไม่ได้เกณฑ์หรือจัดตั้งมา ก็น้อยคนที่ขนะเข้ามาได้
    
 เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามีหลักฐานการนำโพยเข้าคูหาได้มาอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า มีคนส่งตัวอย่างมาให้ดูว่าเขาไปซ้อมกันที่ไหน เป็นรูปให้กาหมายเลข 3 หมายเลข 6 ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับกกต.ที่มีหน่วยสืบสวนสอบสวนทำงานหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพบว่าจุดอ่อน คือไม่พบว่ามีการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติ และปล่อยให้เข้ามา ซึ่งในทางการข่าวถ้าจะจับคนร้ายต้องดำเนินการตั้งแต่ต้นทาง ต้องสืบไปที่หมู่บ้านและตำบล ว่ามีการขนคนเก็บบัตรประชาชน ออกใบรับรองแพทย์โดยที่ไม่ได้ตรวจหรือไม่ ซึ่งรูปถ่ายก็เห็นว่าเป็นกระบวนการ แต่กกต.บอกว่าไม่พบกระทำความผิด ซึ่งตนเห็นว่าไม่ได้ตรวจจะเห็นอย่างไร  โดยตนจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการ
    
 เมื่อถามย้ำว่าหลักฐานที่ได้มาสามารถเอาไปร้องได้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า อยู่ที่ผู้ร้อง ซึ่งปัญหาขณะนี้ ผู้ร้องมีสิทธิ์ร้องใคร ถ้าบพการทุจริตผู้มีสิทธิ์ร้องคือผอ.กกต.อำเภอ แต่ผอ.กกต.อำเภอ  ปล่อยออกมาหมด ทั้งที่กระบวนการทุจริต มีตั้งแต่ก่อนสมัคร ที่ปล่อยให้ขบวนการจับจ้าง 2 หมื่นกว่าคนขนปิ๊กอัพใส่สูทปลอม บัตรตรวจสุขภาพปลอม มีการจัดจ้างเข้ามาตั้งแต่ระดับอำเภอ เช่นที่จ.มุกดาหาร มีหมอไปร้องว่าอสม.ไม่มีสิทธิ์สมัคร แต่ศาลบอกว่าผู้ร้องไม่มีอำนาจ ซึ่งก็ใช่ เพราะกฎหมายเขียนไว้ว่าผู้ร้องคือ ผอ.การเลือกตั้ง
    
   นอกจากนั้นยังมีผู้ร้องว่าบางจังหวัดในภาคอีสานมีการจัดเลี้ยงก่อนลงสมัคร ซึ่งเรื่องนี้มีการส่งให้ประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว และร้องมาที่ผมด้วย ว่ามีสส. 2 คน ได้จัดงานเลี้ยงผู้สมัคร สว.ซึ่งทราบว่า เป็นสส.พรรคการเมืองใหญ่ เพราะถ้าไม่ใหญ่ไม่กล้าทำ ใหญ่ทั้งแผ่นดิน อย่างไรก็ตามหากเรื่องงนี้ประธานรัฐสภา เอาจริงในการตรวจสอบก็จะนำไปสู่การผิดจริยธรรมของสส. และอาจจะนำไปสู่การยุบพรรคได้นายสมชาย กล่าว 
   
  นายสมชาย กล่าวต่อว่า เราคงไปเบรกการกระทำอะไรไม่ได้ เรามีหน้าที่ตรวจสอบก็ตรวจไป ใครทำทุจริต วันหน้าก็ต้องรับคดีความไป และคงจะเห็นภาพชัดเจนว่า การเลือกสว. ที่เราประสงค์ จะทำให้มีสว.ที่ดีทั้ง20 กลุ่ม เกิดโมฆียะตั้งแต่ต้นแล้ว และตนเชื่อว่าไปต่อยาก และถ้ากกต.ทำหน้าที่ของตัวเองสัก 90% ก็เจอแล้ว ขนาดผมทำหน้าที่กมธ. แค่กมธ.ยังเจอเลย แต่กกต.แถลงแค่ว่าเรียบร้อย แล้วเรียบร้อยใคร เรียบร้อยโรงเรียนวัวเท่านั้น