เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังหน้าดึก 28 หมู่บ้านเอื้ออาทรวัดกู้ 2 ต.บาฃพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากนายภูริทัต พุธฮัง อายุ 43 ปี จยย.รับจ้าง ได้นำหลักฐานกล้องวงจรปิดขณะถูกคน 2 ร้าย ขี่ จยย.มาก่อเหตุขโมยรถยี่ห้อ ฮอนด้ารุ่น เวฟ 125i สี เทาน้ำเงิน ทะเบียนกทม. ที่จอดอยู่หน้าตึก แล้วขับหลบหนีไป แจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด เหตุเกิดวันที่ 9 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 19.00 น.
นายภูริทัต กล่าวว่า คืนวันที่ 9 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ตนได้ขี่รถ จยย.รับจ้างตามปกติ หลังจากเลิกงานก็ได้จอดรถ จยย. ไว้หน้าตึกตามปกติทุกวันโดยมีการล็อคคอไว้ ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 08.00 น. ตนได้ตื่นมาเพื่อที่จะไปขับรถทำงานตามปกติปรากฏว่าหลังจากลงมาจากห้องไม่พบรถ จยย.ของตน จึงรู้สึกตกใจแล้ว ไปขอดูกล้องวงจรปิดจากนิติปรากฏว่าเวลาประมาณ 19.00 น. พบวัยรุ่น 2 ราย สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนโดยขับมาจอดบริเวณข้างตึก 29 จากนั้นคนร้ายหนึ่งรายที่เป็นคนซ้อนท้ายได้เดินลงมาดูลาดเลา แล้วไปยืนปัสสาวะข้างตึก จากนั้นได้เดินมาที่หน้าตึกของตน มุ่งตรงไปที่รถ จยย.จากนั้น ก็ได้หยิบเครื่องมืออะไรซักอย่างแล้วก่อเหตุขโมยรถขับหนีออกไป โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ซึ่งหลังจากที่ตนได้ดูกล้องวงจรปิดแล้วตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจาก ตนเพิ่งตกงานมาอายุก็เยอะแล้ว ทำงานโรงงานไม่มีใครรับ จึงตัดสินใจออกรถจักรยานยนต์คันที่หายไปในราคา 4,000 บาท มาสู้ชีวิตขี่วิน จยย.โดยเช่าเสื้อวินจากน้องชาย ซึ่งรถคันนี้ตนผ่อนได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ราคาเต็มก็ประมาณ 1 แสนกว่าบาท ตอนนี้รถได้หายไปแล้ว เปรียบเสมือนไร้แขนขาทำงาน ตอนนี้ชีวิตลำบากไม่มีงานไม่มีเงินตนอาศัยอยู่กับแฟนซึ่งเป็นผู้พิการอยู่ด้วยหนึ่งคน รายได้หลักในการเลี้ยงชีพก็ได้มาจากตน ส่วนแฟนตนก็รับจ้างพับกระดาษเหรียญโปรยทาน ซึ่งงานก็ไม่ได้เงินอะไรมากมายแล้วก็ไม่ได้มีทุกวัน สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตอนนี้ตนลำบากไม่มีรถไปทำงาน และอยากจะฝากถึงคนร้ายสองคนนี้ว่า “แขนขาก็มีไม่ได้พิการ แต่ทำไมไม่หางานการทำ มาก่อเหตุแบบนี้“