วันที่ 10 มิ.ย.67 ที่ศาลาว่าการ กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวความคืบหน้าผลดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ภายหลังประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 9/2567 ว่า ล่าสุดได้สั่งการ 3 เรื่อง คือ 1.มอบหมายให้ปลัด กทม. กำกับดูแลการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มข้น พร้อมรายงานผลในวันศุกร์ทุกสัปดาห์ 2.มอบหมายให้ปลัด กทม.ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างทุกหน่วยงานตามโครงสร้างทั้งหมดของ กทม. เพื่อความโปร่งใส ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนกำหนด พร้อมรายงานผลการตรวจสอบทุกรายการให้ผู้บริหาร กทม.ทราบทุกเดือน 3.เนื่องจากเกิดปัญหาการทุจริตเครื่องออกกำลังกาย อาจทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล ส่งผลให้การจัดหาเครื่องออกกำลังกายสำหรับประชาชนในระยะต่อไปอาจมีความล่าช้า เนื่องจากเครื่องออกกำลังกายไม่มีราคากลางที่เป็นมาตรฐานจากกรมบัญชีกลาง จึงสั่งการให้ปลัด กทม.จัดทำราคากลางที่เป็นมาตรฐาน ผ่านการทำประชาพิจารณ์เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการจัดซื้อคราวต่อไป ซึ่งจากการหารือกับนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะ กทม.

 

ด้านนายณัฐพงศ์ ดิษบุตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) กล่าวถึงผลการตรวจสอบว่า ศตท.กทม. ร่วมกับ สำนักงานตรวจสอบภายใน และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบพบว่า มีมูลและข้อบกพร่องหลายประเด็น อาจผิดกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) เบื้องต้นได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการเรื่องประพฤติมิชอบต่อไป ส่วน กทม.ดำเนินการส่งเรื่องให้ปลัด กทม.ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ขยายผล เพื่อดำเนินการทางวินัย และดำเนินคดีทางอาญา ปัจจุบันอยู่ระหว่างขยายผลการตรวจสอบโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่เหลือทั้งหมดตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป หากพบการประพฤติมิชอบ จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เพิ่มเติม

 

นอกจากนี้ สำนักงานตรวจสอบภายใน ได้เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบราคาของรายการหรือโครงการที่จะเสนอของบประมาณ ปี 2568 ทั้งหมด ซึ่งจะมีการนำเรื่องเสนอผู้ว่าฯ กทม.เพื่อพิจารณาลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวต่อไป