กกต.ปลื้มเลือกสว.คึก

 "ปธ.กกต."ลงพื้นที่ตรวจดูการเลือกสว. เผยสถานการณ์คึกคัก เรียบร้อยดี  แม้หลายพื้นที่ผู้สมัครน้อยแต่ไม่กระทบเลือกไขว้ ย้ำเลือกระดับอำเภอไร้ปัญหา ยันไม่กังวลศาลรธน.รับวินิจฉัย พ.ร.ป.เลือกผู้แทนสภาสูง   พบร้องเรียน 22 คำร้อง ส่วนใหญ่เรื่องจ้างสมัคร เลือกเสร็จพร้อมประกาศชื่อไม่ต้องรอผลสอบร้องเรียน
       
     ที่สโมสรตำรวจ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.67 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์หลังตรวจเยี่ยมการจัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับอำเภอ สำนักงานเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ว่า จากการลงพื้นที่หลายพื้นที่ในวันนี้พบว่าเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่แจ้ง และซักซ้อมกันตลอดเวลา สำหรับสถานการณ์การเลือกสว. ที่สโมรสรตำรวจ พบว่า เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่เข้มแข็งตามที่ซักซ้อม ในส่วนของผู้สมัครมีความกระตือรือร้น เข้าใจกฎเกณฑ์กติกาอย่างดี ให้ความร่วมมืออย่างดี อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานว่าที่คลองหลวง มีบางส่วนมาไม่ทันรายงานตัวช่วง 9 โมง เลยเข้าไม่ได้ตามกฎหมาย แต่จากที่ดูมาหลายพื้นที่ ก็เชื่อว่าจะเรียบร้อยเป็นไปตามแนวทางกฎหมาย
    
 ส่วนมีคำร้องเรียนขณะนี้ได้รับรายงานมีประมาณ 22 คำร้อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการจ้างสมัคร ในหลายๆ จังหวัด ทั้งนี้ ถ้าคำร้องใดสมควรรับไว้สืบสวนไต่สวนก็รับเป็นสำนวนและเข้าสู่กระบวนการสืบไต่สวนของกกต.  โดยการตรวจสอบก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการ เป็นไปตามระเบียบการไต่สวน ซึ่งจะดูว่าผู้ร้องมีสิทธิร้องหรือไม่ ข้อมูลคำร้องเพียงพอหรือไม่ หากเห็นว่ามีเพียงพอก็ให้กรรมการสืบสวนไต่สวนระดับจังหวัดพิจารณา เบื้องต้นต้องดำเนินการ โดยเร็วให้เสร็จภายใน 20 วัน
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีจังหวัดผู้สมัครน้อยมีผลต่อการเลือกไขว้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะเรามีภาพสมมติสถานการณ์ ว่าหากเป็นแบบนี้จะทำอย่างไร จะเลือกอย่างไร และซักซ้อมความเข้าใจกันมาตลอดเวลา ดังนั้นคิดว่าการเลือกน่าจะเสร็จเร็ว เพราะจำนวนผู้สมัครไม่ได้มากเกินกว่าที่เราคิดไว้ ราวๆ 4 หมื่นคน กระจายเป็นกลุ่มๆ กระจายทั่วประเทศ ทำให้สามารถบริหารสถานการณ์ได้ราบรื่นให้ได้มากที่สุด สำหรับผลการเลือกที่ออกมาจะมีการติดประกาศหน้าสถานที่เลือกที่อำเภอ เว็บไซต์ กกต. และสมาร์ทโหวตภายในวันนี้ ดังนั้นวันนี้หน่วยไหนเลือกเสร็จ นับคะแนนเสร็จผู้สมัครก็กลับบ้านได้เลย
  
   เมื่อถามว่า การประกาศผลต้องรอให้มีการสอบสวนเรื่องร้องเรียนเสร็จก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่ต้องรอ ถ้ามีคำร้องก็ต้องร้องภายใน 3 วัน แล้วกกต.ก็จะพิจารณาโดยเร็ว  ส่วนคำร้องที่ทำให้การเลือกไม่สุจริตเที่ยงธรรม ก็จะพิจารณาตามระเบียบสืบสวนไต่สวน ซึ่งต้องใช้เวลา ถ้าพบมีการกระทำผิดก็จะไม่ประกาศชื่อ ส่วนถ้าผิดพลาดในตำแหน่ง หน้าที่เราก็สั่งให้มีการเลือกใหม่ในหมวดนั้น จุดนั้น รอบ 1 รอบ 2 ได้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และทำทันเวลาเพราะมีการซักซ้อมทำความเข้าใจกันเป็นอย่างดี ย้ำว่า หากเลือกใหม่ก็ต้องทำก่อนที่จะมีการเลือกระดับจังหวัด ซึ่งเราคาดเอาไว้แล้วว่าระยะเวลาที่มีอยู่นั้นจะทำทัน
   
  เมื่อถามถึงกรณีจุดที่จัดไว้ให้สังเกตการณ์บางพื้นที่ไม่มีการติดกล้องวงจรปิด นายอิทธิพร กล่าวว่า การติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือไม่เป็น การปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งจะมีอยู่ 1 มาตราในหมวดย่อยที่ระบุว่า ต้องจัดให้มีกล้องวงจรปิดในการทำงาน และแจ้งให้ต่างจังหวัดทราบว่าสถานที่เลือก จะต้องมีกล้องวงจรปิดจำนวน 4 ตัว ติดตั้งในบริเวณที่เหมาะสม เพื่อควบคุมการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อความโปร่งใสและให้ผู้สมัครสบายใจ สามารถเลือกกันเองด้วยความสมัครใจ ถ้าเกิดมีพื้นที่ใดไม่ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงาน เพราะเรามีการสั่งการไปค่อนข้างชัดเจน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าทุกหน่วยที่จัดการเลือกสว.มีการจัดพื้นที่สำหรับผู้สังเกตการณ์อยู่แล้ว
   
  เมื่อถามว่าผู้สมัครหรือผู้สังเกตการณ์หากต้องการขอกล้องวงจรปิด สามารถทำได้หรือไม่นายอิทธิพร กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะมีข้อขัดข้อง สามารถทำเรื่องเข้ามาได้เพราะว่าเป็นการติดกล้องตามกฎหมายที่กำหนด เพราะฉะนั้น เราก็ไม่มีอำนาจในการปฏิเสธถ้าใครจะขอดูซึ่งก็เป็นไปเพื่อความโปร่งใสอยู่แล้ว
    
 วันเดียวกัน ที่จงพระนครศรีอยุธยา นายอิทธิพร บุญประคอง  ประธาน กกต. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ในระดับอำเภอ ที่หอประชุมพระพิรุณรำลึกโปรดเกล้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล  โดย นายอิทธิพร  เปิดเผยว่า   จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้สมัครเพื่อคัดเลือกเป็น สว.อยู่ในอันดับที่ 7 ของประเทศ สถานที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่คัดเลือก สว.ในระดับอำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยเห็นว่า การเตรียมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ กกต.และทีมสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ได้เตรียมความพร้อมอย่างดี และไม่มีปัญหาใด ๆ พร้อมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติที่ได้ซักซ้อมกันมา และไม่มีข้อกังวลใด ๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีความพร้อมในการทำหน้าที่ 
    
 มั่นใจว่าการเลือกผู้สมัครในระดับอำเภอที่จะนำไปสู่การเลือกระดับจังหวัด ก่อนมีการเลือกระดับประเทศต่อไปนั้น จะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้ ซึ่งไม่กังวลต่อการรับคำร้องวินิจฉัยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา ของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ กกต.ยุติการเลือก สว. เพียงแต่รับคำร้องไว้วินิจฉัย ดังนั้น กกต.จึงดำเนินการเลือก สว.ตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว.แล้ว และยังไม่มีคำสั่งใดมายับยั้ง ดังนั้น กกต.จึงดำเนินการต่อไป 
    
 เมื่อถามว่า มีข้อร้องเรียกเพิ่มเติมต่อการเลือก สว.ประธาน กกต.กล่าวว่า มีเรื่องร้องเรียนเพิ่มเข้ามา 2 เรื่อง รวมเป็น 22 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อร้องเรียนเรื่องการจ้างผู้สมัครมาลงสมัคร ซึ่งหากตรวจสอบเบื้องต้น พบพยานหลักฐานก็จะรับคำร้อง เพื่อการไต่สวนตามขั้นตอนต่อไป
 สำหรับบรรยากาศการเลือกสว. ทั่วประเทศ เป็นไปอย่างคึกคัก โดยที่จ.เชียงราย ได้มีการเตรียมความพร้อมของแต่ละอำเภอ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เข้าสังเกตการณ์การเลือกในครั้งนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอแม่จัน และที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย โดยผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาชีพ เกษตรกร ค้าขาย ข้าราชการ และรับจ้าง ซึ่งผู้สังเกตการณ์ ต้องเป็นผู้ที่ได้แจ้งรายชื่อไว้กับทาง กกต. มาก่อนแล้ว จึงจะสามารถเข้ามาสังเกตการณ์ในอาคารที่ทำการเลือกได้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้แจ้งชื่อมาก่อน สามารถสังเกตการณ์ บริเวณภายนอกอาคาร ซึ่งจะมีพื้นที่และเก้าอี้ไว้สำหรับผู้มาสังเกตการณ์
     
โดยเวลา 08.00 น. ผู้สมัครได้เข้ารายงานตัวต่อกรรมการประจำสถานที่เลือกของกลุ่มที่ตนลงสมัคร ส่งมอบโทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสาร และแสดงหลักฐานเป็น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและเลขประจำตัวประชาชน
    
 จากนั้นเวลา 09.00 น. ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ ชี้แจงผู้สมัครและเริ่มลงคะแนนรอบแรก ซึ่งเป็นการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ โดยผู้สมัครลงคะแนนได้ไม่เกิน 2 คะแนน จะลงคะแนนให้ตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนมิได้ 
 ที่โรงเรียนบ้านบางกะปิ   พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ   ลงพื้นที่สังเกตการณ์ลงคะแนนเลือก สว. พร้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   โดย พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า จากที่เดินทางไปตรวจการลงคะแนนเลือกในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี  ปทุมธานี   และที่เขตบางกะปิ    ซึ่งมีผู้ซึ่งเป็นเขตที่มีผู้สมัคร สว.ของ  กทม.มากที่สุด 99 คน ไม่มารายงานตัว 3 คน  โดยกระบวนการเลือกเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด   ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจมีภารกิจในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง  ซึ่งขณะนี้ส่งยังจุดเลือก สว.เรียบร้อยหมดแล้ว    เมื่อเลือกเสร็จบัตรจะถูกนำไปเก็บเพื่อรอการตรวจสอบ    ซึ่งก็คล้ายกับการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.กรณีถ้ามีการทุจริตดูวิธีการใดและมีความผิดตาม  พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. กกต.ก็จะดำเนินการแจ้งความ  ซึ่งมีบางที่เริ่มดำเนินการแล้วแต่ว่ายังไม่มากเช่นที่จ.นครศรีธรรมราช ที่มีการอ้างว่า มีการจ้างลงสมัคร    ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์กัน
     
ทั้งนี้เราใช้กำลังตำรวจทั้งหมด 17,000 กว่านาย ในการเคลื่อนย้ายบัตร รักษาความปลอดภัย โดยมีบางจุดที่ขอเพิ่มก็เกรงว่าอาจจะมีเหตุผิดปกติ  ส่วนที่มาสังเกตการณ์ก็พบว่ามีกลุ่มต่างๆซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาดูว่าการเลือกตั้งแต่ละเขตมีอะไรที่ดูน่าสงสัยหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบเหตุผิดปกติอะไรทั้งเรื่องการซื้อเสียง การฮั้ว การล็อบบี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองในการเลือก  สว. หรือไม่ พล.ต.ท.กรไชย   กล่าวว่า ทุกที่มีกลุ่มการเมือง ส่วนจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเลือกหรือไม่ ต้องพิสูจน์ทราบ   แต่ถ้ายังไม่มีความผิด   ไม่มีพยานหลักฐาน   ตำรวจก็จะไม่เข้าไปดำเนินการอะไร   แต่เราก็ติดตามอยู่แล้ว    ทั้งการลงพื้นที่และติดตามทางโซเชียลมีเดียว่าใครมีพฤติกรรมในลักษณะเชิญชวนที่เข้าข่ายปิดการเลือก สว.หรือไม่   ซึ่งเราก็ดูอยู่