เมื่อเวลา 19:00 น วันที่ 9 มิถุนายน 67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ได้เกิดเหตุเขื่อนริมน้ำบริเวณวัดเชิงเลน ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พังทรุดลงมาเป็นแนวยาวกว่า 200 เมตร จึงรีบรุดเดินทางลงไปตรวจสอบ พบพระภิกษุและชาวบ้านจำนวนหนึ่งต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ริมเขื่อน
พระครูนนทคุณพิพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดเชิงเลน กล่าวว่า เกิดเหตุเขื่อนพังประมาณ 17.30 น. ดีที่ช่วงกลางวันวัดมีกิจกรรมแล้วไม่พังลงมาเขื่อนมันร้าวมานานแล้วแต่ไม่รู้จะทำยังไง ตกใจเหมือนกันไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อาตมาอาจจะให้ข้อมูลมากไม่ได้เนื่องจากไม่ค่อยมีความรู้ อยากให้ทางผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูลดีกว่า ซึ่งอาตมาอยากให้เปลี่ยนผู้รับเหมาเพราะชุดนี้ไม่ค่อยโอเค เคยทักท้วงไปหลายครั้งแล้วระหว่างทำงาน ปี 58 ก็เป็นผู้รับเหมาชุดนี้ที่ทำแล้วก็พังอยากให้เปลี่ยนชุดรับเหมาจริงๆ เอาคนที่มีความรู้มีความสามารถ มากกว่านี้มาทำจะดีกว่า
นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายก อบต.ท่าอิฐ กล่าวว่า ตนอยากให้สร้างเขื่อนให้ได้มาตรฐานและต้องป้องกันน้ำท่วมในอนาคตด้วย เขื่อนเดิมที่เคยสร้างของวัดเชิงเลนแน่นหนามาก แต่ความรู้สึกของชาวท่าอิฐและใกล้เคียงก็ดีใจที่ได้เขื่อนนี้มา เพราะอนาคตจะได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมได้ เมื่อปี 54 เราโดนหนักมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้ป้องกันน้ำท่วมด้วย ไม่ใช่แค่ป้องกันตลิ่ง พัง ตนเป็นตัวแทนชาวท่าอิฐและใกล้เคียงหลายหมื่นคน ที่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ตั้งแต่อ้อมเกร็ดไปยันพระนั่งเกล้า ผลกระทบมีมากเพราะดินก็พังลงไปอีก อยากให้แก้ไขให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากให้ทำให้มั่นคงมากกว่านี้ เพราะตรงที่ยืนแต่ก่อนอยู่ทางวัดทำได้แข็งแรงมาก
นายณรงค์ แก้วเกตุ ผู้ช่วยผู้ควบคุมงานเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน กล่าวว่า การทำงานอยู่ในช่วงดำเนินการอยู่ระดับหินที่ใส่ตลอดแนวพอใช้ได้ แต่มาทรุดลงอีก น้ำลงเยอะดินที่ถมไปก็มีแรงดันขึ้นมาทำให้คาดว่าเป็นสาเหตุ เดี๋ยวจะประสานให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูอีกที และจะแก้ไขให้เร็วที่สุดประเมินเบื้องต้นระยะเวลาแก้ไขไม่นาน ส่วนเรื่องความรับผิดชอบนั้นทางผู้รับเหมาที่รับงานจากกรมชลประทานต้องรับผิดชอบแก้ไขดูแลอยู่แล้ว