วันที่ 9 มิ.ย.2567 ที่เขตจตุจักร นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ    พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือก สว.ระดับอำเภอ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทร์
เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพ ก่อนจะเปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการได้ติดตามกระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่อย่างต่อเนื่อง    มีเป้าหมายอยากให้กระบวนการคัดเลือก สว.ดำเนินการด้วยความราบรื่น โปร่งใสเป็นไปตามกรอบเวลา   และประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด โดยวันนี้คณะกรรมาธิการกระจายตัวไปสังเกตการณ์ทั่วประเทศ    เหตุผลที่ตนเองตัดสินใจมาสังเกตการณ์ที่เขตจตุจักร   เพราะมีผู้สมัคร สว.จำนวนมาก  เป็นหนึ่งใน 3 เขตของกรุงเทพ  ที่มีผู้สมัครเกิน 90 คน

นายพริษฐ์  กล่าวว่า ขอเรียกร้อง 3 ข้อถึง กกต. ประกอบด้วย 1.อยากเห็นการจัดสถานที่สังเกตการณ์ที่ใกล้ชิดกว่านี้   เขตจตุจักรแม้จะมีสถานที่สังเกตการณ์ แต่การสังเกตการนับคะแนนและผลการนับคะแนนยังทำได้ยากมาก    ต้องติดตามผ่านกล้อง CCTV ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ และเป็นการเผยแพร่ภาพเพียงอย่างเดียว จึงเรียกร้องไปยัง กกต.ปรับปรุงให้ผู้สังเกตการณ์และประชาชนเข้าถึงกระบวนการได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นในการเลือก สว.ระดับจังหวัด

ทั้งนี้ได้รับรายงานว่าการจัดสถานที่สังเกตการณ์ในการเลือกระดับอำเภอ แต่ละพื้นที่แตกต่างกัน   บางที่สามารถดูกระบวนการนับคะแนนและเอกสารหน้าที่เลือกได้เลย     บางแห่งมีพื้นที่จำกัดและเข้าไปด้านในที่เลือกไม่ได้    บางพื้นที่ต้องดูผ่านกล้องวงจรปิดอย่างเดียว

2.มาตรฐานการปฎิบัติในแต่ละหน่วยเลือกไม่เหมือนกัน    เช่น การจับสลากแบ่งสาย แนวปฏิบัติการพูดคุยแนะนำตัวระหว่างผู้สมัคร และ  3.คงแก้ไม่ทันแล้วแต่ต้องถอดบทเรียน    เพราะผู้สมัครในภาพรวมมีจำนวนน้อย 4 หมื่นกว่าคน    ทำให้บางกลุ่มอาชีพไม่มีผู้สมัคร    บางกลุ่มมีผู้สมัครไม่เกิน 5 คน   ไม่ต้องคัดเลือกกัน    การแข่งขันจึงไม่เข้มข้น


นายพริษฐ์ กล่าวว่าส่วนข้อครหาในการจัดจ้างคนมาเลือกเพื่อฮั้ว ถือเป็นข้อร้องเรียนที่ได้รับเข้ามาเรื่อย ๆ ในคณะกรรมาธิการ    ซึ่งมีหลายระดับร้ายแรงสุดถึงขั้นว่าจ้างให้คนมาเลือกตนเอง รองลงมาคือการจัดตั้งเครือข่ายในกลุ่มคนที่รู้จักเพื่อแลกคะแนนเสียง    ทั้งหมดถือเป็นความผิดตามกฏหมาย เฉพาะหน้าอยากให้ กกต. ดำเนินการอย่างจริงจังและรวดเร็วเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง    และต้องไม่ให้กระทบต่อการเลือก สว.ชุดใหม่ ระยะยาวส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเลือก สว.ในระบบนี้ จึงตั้งคำถามว่าจำเป็นต้องมีวุฒิสภาหรือไม่    เพราะหลายประเทศทั่วโลกที่เป็นรัฐเดี่ยว  มีระบบรัฐสภาก็ใช้ระบบสภาเดียว มีเพียงสภาผู้แทนราษฎร หากจะมี  สว.ที่มีอำนาจสูงร่วมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ รับรองตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระก็ควรมาจากการเลือกตั้งที่ประชาชนมีส่วนร่วม     ไม่ใช่คัดเลือกกันเองระหว่างผู้สมัคร ซึ่งมีอุปสรรคเรื่องอายุ และค่าทำเนียมการสมัครที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างไม่เต็มที่

เมื่อถามว่าคิดว่สจะได้ สว.ที่ตอบโจทย์หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับโครงสร้างและที่มาของ สว.หวังว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในการเมืองไทย    การออกแบบรัฐสภาที่ตอบโจทย์จะถูกพูดคุยในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่    ประเทศไทยจำเป็นต้องมี สว.หรือไม่  หากมีจะต้องออกแบบโครงสร้างอำนาจหน้าที่อย่างไรให้สอดคล้อง

นายพริษฐ์ กล่าวว่า กกต.เกี่ยวกับเรื่องการฮั้ว กกต.ควรเอาจริงเอาจัง จัดสรรบุคลากรให้เพียงพอเพื่อสืบค้นข้อเท็จจริงให้สามารถแก้ไขปัญหาได้    โดยไม่กระทบภาพรวมในการคัดเลือก สว.ให้เป็นไปตามปฏิทิน อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการได้รับรายงานเรื่องการฮั้ว   เช่น รูปที่ใช้ในการสมัครดูเหมือนเป็นสถานที่เดียวกัน ทั้งหมดเป็นเพียงข้อสังเกต ยังไม่ด่วนสรุปว่ามีการจัดตั้ง ท้ายสุด กกต.ต้องเอาจริงเอาจังกับการสืบค้นข้อเท็จจริง โดยไม่กระทบต่อปฏิทินในการคัดเลือก สว.