เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 9 มิ.ย.ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมา วัดพระธาตุลำปางหลวง โดยนายกฯ ได้กราบสักการะพระประธานในพระอุโบสถ ก่อนกราบนมัสการและสนทนาธรรมกับ พระครูพิธานนพกิจ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุลำปางหลวง รองเจ้าคณะอำเภอเกาะคา
โดยนายกฯ ได้สอบถามถึงประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุลำปางหลวง พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปจัดกิจกรรมร่วม หากมีกิจกรรมสำคัญที่เชียงใหม่ เพราะจังหวัดลำปางเป็นจังหวัดทางผ่านขอให้จัดกิจกรรมและขอให้มีโปรโมทเส้นทางท่องเที่ยวให้สอดคล้องกัน รวมทั้งได้สั่งการให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประสานกับสำนักพุทธฯ ให้ทำงานควบคู่กันกับการท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยงให้เป็นเส้นทางเดียวกันในการโปรโมทการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหนึ่งระหว่างการสนทนาธรรม เจ้าอาวาส ระบุว่าถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังพระธาตุลำปางหลวงเพราะเป็นพระธาตุประจำปีเกิด คือปีฉลูหากนับตามนักษัตรทางภาคเหนือ แต่นายกรัฐมนตรีก็แย้งว่าตนเองเกิดปีขาลหรือปีเสือ เจ้าอาวาสจึงระบุว่าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2505 ซึ่งเป็นวันเกิดของนายกรัฐมนตรีนั้นนับตามนักษัตรของทางภาคเหนือถือว่ายังอยู่ในปีฉลู
จากนั้นเจ้าอาวาส ได้มอบองค์พระธาตุจำลองลำปางหลวงซึ่งเป็น พระธาตุประจำปีเกิดปีฉลู ตามความเชื่อของชาวล้านนา พร้อมเหรียญพระแก้วมรกตดอนเต้า ซึ่งถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง และพระรอดลำปางหลวง ซึ่งทำมาจากเนื้อเงินและเนื้อทอง ที่ทำมาจากส่วนที่เหลือที่หุ้มพระธาตุ ในการบูรณะเมื่อปี 2550ให้กับนายกรัฐมนตรี
ก่อนที่เจ้าอาวาสได้สวดให้พรนายกฯ ประสบความสำเร็จในการบริหารราชการแผ่นดิน
ต่อมานายกฯ ได้สักการะองค์พระธาตุลำปางหลวง โดยเจ้าอาวาสฯได้อธิบายถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญในอดีต จากนั้นนายกฯ ได้เข้าไปหอพระพุทธซึ่งภายในมองเห็นแสงหักเห ปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ ก่อนที่จะออกมาถ่ายรูปพร้อมคณะเป็นที่ระลึก
