เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.เอกรินทร์ สนนาค สว.กก2 บก.สอท.2  นำกำลังพร้อมหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 382/2567 เข้าจับกุมตัวนายอิทธิพร อายุ 28 ปี  ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ , โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี"

สืบเนื่องจาก เมื่อเดือนกันยายน 66 ได้มีผู้เสียหายมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านจ.นนทบุรี เข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ว่า มีคนร้ายใช้เฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี "..." ทักมาขอเป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย หลังจากได้พูดคุยกัน คนร้ายได้ขอแอดไลน์กับผู้เสียหาย  โดยใช้ชื่อบัญชีไลน์ "..." ซึ่งได้โทรคุยกันทางไลน์กันมาระยะหนึ่ง คนร้ายได้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการลงทูนเทรดหุ้น และชักชวนผู้เสียหาย แนะนำให้โหลดแอพพลิเคชั่น เพื่อใช้ในการลงทุนเทรดหุ้นในระบบคอมพิวเตอร์ 

โดยใช้อุบายอ้างว่าถ้าลงทุนแล้วจะได้ค่าตอบแทนสูงคุ้มค่ากับการลงทุน ก่อนคนร้ายได้ส่งหมายเลขบัญชีธนาคารมาให้ผู้เสียหายเพื่อโอนเงินในการลงทุน ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินไปลงทุน จำนวน 6 ครั้ง รวมเป็นเงิน 885,000 บาท โดยได้เงินค่าตอบแทนจากการลงทุนมาเพียงครั้งเดียวเป็นเงิน จำนวน 13,957 บาท จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายถึงที่สุด 

ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.2  ทำการการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มขบวนการนี้มีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิด โดยแบ่งหน้าที่กันทำในลักษณะสุ่มหาบุคคลในเฟซบุ๊กที่ดูมีฐานะทางการเงินดี ก่อนแอดคุยกัน จากนั้นจะให้ติดต่อผ่านไลน์ โดยไม่ได้เฉพาะเจาะจงบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นพิเศษ ก่อนส่งข้อความพูดคุยแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนอันเป็นเท็จแนะนำให้ผู้เสียหายโหลดแอพพลิเคชั่นเพื่อใช้ในการลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์ ชักชวนโน้มน้าวเป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินร่วมลงทุน 

ทางเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับนายอิทธิพรกับพวก รวม 6 คน ที่เป็นผู้ร่วมในขบวนการที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า เพื่อรองรับการโอนเงินจากผู้เสียหาย  โดยติดตามจับกุมนายอิทธิพรได้ที่บ้านพักในชุมชนริมทางรถไฟ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. โดยเมื่อช่วงเดือนพฤษาคมที่ผ่านมา ชุดจับกุมได้ติดตามรวบตัวผู้ร่วมขบวนการในกลุ่มนี้ไปแล้ว 2 คน คือ นายอนุสอน อายุ 45 ปีและนายประสิทธิ์ อายุ 43 ปี ส่วนที่เหลืออีก 3 คน ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป