เมื่อเวลา 13.10 น.วันที่ 8 มิ.ย. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ  เดินทางมายังวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร  อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน  โดยเมื่อมาถึงได้กราบพระประธานในพระอุโบสถพร้อมกราบนมัสการพระเทพรัตนนายก  เจ้าคณะจังหวัดลำพูน และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยฯ และสนทนาธรรม 

 

โดยเจ้าคณะจังหวัดลำพูน ได้กล่าวกระเซ้านายกฯ ว่า เป็นแฟนคลับ และเพิ่งเห็นตัวจริงสูง 192 เซนติเมตร ใช่หรือไม่ ก่อนจะบอกว่า มีเรื่องฝากหลายเรื่อง เรื่องแรกคือที่วัดเน้นและส่งเสริมวัฒนธรรม ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีการร่วมมือช่วยเหลือกันหมด ปัจจุบันเข้าสู่ระบบอินเตอร์ คือมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งวัดอยู่ระหว่างการก่อสร้างพระวิหารพระเจ้าละโว้ ซึ่งเป็นพระวิหารบริวารของพระธาตุหริภุญชัย วงเงิน 27 ล้านบาท และตั้งแต่ต้นเป็นเจ้าอาวาสก็ยังไม่เคยขอเงินจากรัฐบาล หรือราชการใดๆ จึงอยากให้นายกฯ ประสานสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณางบประมาณดังกล่าวให้

 

นอกจากนี้ยังฝากเรื่องของการกำจัดขยะ  เนื่องจากในพื้นที่ของจังหวัดลำพูน และจังหวัดใกล้เคียงไม่มีพื้นที่กำจัดขยะ ต้องส่งไปที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งระยะทางไกลและใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงอยากจะให้ทำโครงการจังหวัดละหนึ่งโรงกำจัดขยะ 

 

อีกเรื่องถือเป็นความเป็นความตายของรากเหง้าพระพุทธศาสนา คือโรงเรียนปริยัติธรรมระดับมัธยมทั่วประเทศที่ยังไม่มี  ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ส่งเรื่องไปขออนุมัติตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ยังติดขัดหลายเรื่อง เพราะอย่าลืมว่าวัดทุกวัดคือสมบัติของคนไทยไม่ใช่ของพระหรือของใครคนใดคนหนึ่ง 

 

ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า รับทราบทุกเรื่อง  พร้อมเน้นย้ำเรื่องที่ขอมาจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้ตอนหนึ่งเจ้าคณะจังหวัดลำพูนได้กล่าวกระเซ้านายกฯ อีกครั้งว่า “ ขอให้โครงการ แสนสิริขายดีๆนะ” ทำให้นายเศรษฐากล่าวชี้แจงทันทีว่า “ไม่ทราบครับ เพราะตอนนี้เป็นของลูกสาวแล้ว” 

 

จากนั้นเจ้าคณะจังหวัดลำพูนได้มอบพระรอด วัดมหาวันวนารามพระอรามหลวง (พระรอด)  ให้กับนายกฯ และคณะ รวมถึงได้ฝากให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วย  โดยบอกว่าไม่มีราคา แต่เป็นของที่มาจากจิตศรัทธาอยากมอบให้ พร้อมขอให้นายกฯนำขึ้นคอเพื่อบูชา 

 

ช่วงท้ายก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปปฎิบัติภารกิจต่อ เจ้าคณะจังหวัดลำพูนได้กล่าวว่า  เงิน 10,000 บาท ขอให้ได้โดยเร็วเพื่อให้ประชาชนได้ใช้เงินดังกล่าว รวมทั้งขอให้ดูเรื่องของเงินเดือนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านด้วย เพราะดูเหมือนยังไม่ได้ขึ้นมานานแล้ว  ส่วนเงินเดือนพระสงฆ์ไม่เป็นไร เพราะมีโยมอุปัฏฐากอยู่แล้ว  และขอให้นายกฯ เร่งทำให้รวดเร็ว เพราะเวลาของนักการเมืองมีน้อย อยากทำอะไรจะมัวช้าไม่ได้ ต้องทำให้เร็วๆ 

 

ขณะที่นายกฯ ได้หันไปบอกนายจุลพันธุ์  อมรวิวัฒน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังว่าได้ยินแล้วใช่หรือไม่ ขอให้รีบดำเนินการ