จากกรณีปัญหาข้อพิพาทโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ มาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา กระทรวงคมนาคม อ้างเหตุผลการทุบสะพานสีมาธานีและก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดช่วงผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้าสู่ตัวเมืองนครราชสีมาและใช้เวลาก่อสร้างอุโมงค์ประมาณ 3 ปี ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการสัญจร ขณะเดียวกันก่อนเริ่มดำเนินการต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ใช้เวลาประมาณ 24 เดือน ทำให้การก่อสร้างรถไฟไฮสปีดและรถไฟทางคู่ ต้องล่าช้าไปด้วย จึงเห็นสมควรเสนอรูปแบบเป็นทางรถไฟยกระดับลอดใต้สะพานสีมาธานี การไม่ทุบสะพานเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
วันที่ 8 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่จุดตัดทางข้ามรถไฟ ถ.สืบศิริ ด้านทิศเหนือ เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา นายประพิศ นวมโคกสูง ที่ปรึกษากรรมการชุมชนเขตเมืองนครราชสีมา พร้อมนายรังสรรค์ อินทรชาธร อดีตกรรมการหอการค้านครราชสีมาในฐานะตัวแทนนักธุรกิจโคราช นางอมรรัตน์ ทุดาประดิษฐ์ อดีตกำนัน ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมืองและนายอุดม สร้อยแสงพันธ์ ตัวแทนผู้ประกอบการค้าละแวกใต้สะพานสีมาธานี ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ และถือยืนป้ายไวนิลข้อความ “ทุบสะพานสีมาธานี ยกระดับรถไฟทางคู่ เพื่อเศรษฐกิจของคนโคราช” “ยกระดับอย่างเดียวเท่านั้น” “รถไฟทางคู่ผ่านเมืองโคราช ต้องทุบสะพานสีมาธานี” ซึ่งได้รับเสียงตอบรับและกำลังใจจากผู้ใช้รถใช้ถนนที่กำลังสัญจรผ่านกันอย่างชื่นมื่น
โดยนายประพิศ เปิดเผยว่า ไทม์ไลน์พัฒนาเมืองโคราช ว่า ปี 2558 หลังทราบรูปแบบก่อสร้างรถไฟทางคู่ระดับดินผ่านเมือง โดยสร้างรั้วมีสะพานเกือกม้าทำให้เมืองอกแตกถูกแบ่งแยกเป็น 2 ฝั่ง วิถีชีวิตเศรษฐกิจถูกปิดกั้นและส่งผลกระทบต่อวีถีชีวิตในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงได้พูดคุยกับนักธุรกิจ ผู้นำชุมชนรวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และประชาชน โดยขึ้นป้ายไวนิลรณรงค์ให้รถไฟยกระดับผ่านเมืองและทำเสื้อเป็นสัญลักษณ์ เพื่อนำเสนอปัญหาความเดือดร้อนถึงรัฐบาล ต่อมาปี 2560 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจ ครม.สัญจร เห็นชอบพร้อมให้สัญญากับชาวโคราชให้สร้างยกระดับผ่านเมืองตลอดเส้นทาง และปี 2562 ฉันทานุมัติทุกภาคส่วนของชาวโคราช ต้องการให้ปรับรูปแบบทางรถไฟยกระดับผ่านเมืองและทุบสะพานสีมาธานีรวมทั้งช่วงผ่านกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี มีความสูงเกิน 5 เมตร เพื่อให้รถยนต์ขนาดใหญ่สามารถลอดผ่านได้สะดวก
ล่าสุดเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม มีข้อพิจารณากลับลำไม่ยอมดำเนินการให้โดยดึงดันอ้างเหตุผลต่างๆนานา ภาคประชาชนจึงต้องรวมตัวเรียกร้อง มิเช่นนั้นเส้นทางรถไฟทางคู่ผ่านเมืองในอนาคตกลายเป็นทางรถไฟมหาสนุก มีเส้นทางขึ้น-ลง ส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวม โดยเฉพาะ ถ.สืบสิริ ทางแยกตะวันแดง ทางเชื่อมด้านทิศใต้เข้าสู่ตัวเมือง ซึ่งมีปริมาณรถต่อวันหลายหมื่นคัน จะได้รับผลกระทบทั้งการสัญจร การค้า-การขาย เกิดวิกฤติใหญ่หลวง ทั้งนี้ในวันที่ 11 มิ.ย. นี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม จะเป็นประธานประชุมพิจารณาแนวทางการก่อสร้างร่วมกับ ส.ส 16 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและภูมิภาค หากข้อสรุปขัดแย้งกับฉันทานุมัติและมติของคณะอนุกรรมการจัดการระบบการจราจรทางบกจังหวัดนครราชสีมา (อจร.นม.) ภาคประชาชนจำเป็นต้องพึ่งพากระบวนการยุติธรรมยื่นคำร้องต่อศาลปกครองนครราชสีมารวมทั้งนัดสำแดงพลังเคลื่อนไหวต้อนรับ ครม.สัญจร ในวันที่ 1-2 กรกฎาคม นี้