ตามที่มีข่าว กรณี ชายวัย 63 เป็นหนี้กว่า 20 ล้านต้องคดีล้มละลายไม่รู้ตัว ธนาคารอายัดเบี้ยผู้สูงอายุ จนไม่สามารถเบิกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงวัยได้ นั้น

นางเพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี โฆษกกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า กรณีตามที่เป็นข่าวสืบเนื่องจากชายวัย 64 ปี ได้ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ทำให้ไม่สามารถทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน จึงทำให้ไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารได้ตามที่เป็นข่าว ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นผลตามกฎหมาย ต่อมาลูกหนี้ได้มาให้การสอบสวนกิจการและทรัพย์สินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พร้อมแจ้งให้ทราบว่าเงินในบัญชีธนาคารดังกล่าวเป็นเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จ่ายผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาท่าตะเกียบ

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตรวจสอบแล้วพบว่าเงินในบัญชีธนาคารดังกล่าวเป็นเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจริงจึงได้มีหนังสือไปยังธนาคารตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 อนุญาตให้ลูกหนี้ถอนเงินในบัญชีดังกล่าวได้แล้ว

ทั้งนี้ ในกรณีที่บุคคลใดถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว บุคคลดังกล่าวจะไม่สามารถทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินได้ จึงอาจเกิดกรณีที่ดังที่เป็นข่าวข้างต้น แต่อย่างไรก็ดีหากลูกหนี้มาพบและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะได้ชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติตนและให้การช่วยเหลือลูกหนี้ได้ต่อไป

สามารถสอบถามข้อมูล  หรือขอรับคำปรึกษา เกี่ยวกับ กฎหมาย ขั้นตอนในการบังคับคดีแพ่ง บังคับคดีล้มละลาย การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และ การวางทรัพย์ ได้ที่ สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ หรือโทร 0 2881 4999 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th