วันที่ 7 มิ.ย.67 ที่ห้องประชุมโรงแรมอัยยะปุระและสปา อ.เกาะช้าง จ.ตราด นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดการประชุมการพัฒนาท่องเที่ยวและไมซ์เส้นทางทางนำเชื่อมโยงหมู่เกาะในจังหวัดตราดประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม บนเส้นทางเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจกัมพูชาเวียดนาม และไทย ในงาน CVTEC-Trat Business Roadshow 2024"มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดของ 3 จังหวัดของประเทศเวียตนามตอนใต้ และ รองผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดของประเทศกัมพูชา และจังหวัดตราดร่วม รวม 6 จังหวัด 3 ประเทศ และนายชำนาญ ครีสวัสดิ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายภูริพันธ์ บุนนาค รอง ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ ที่เป็นหน่วยงานที่ร่วมกันจัดขึ้น 

นายชำนาญ กล่าวว่า โครงการ CVTEC นั้น เป็นโครงการที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกันผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สสปน. หรือ TCEB เป็นเจ้าภาพร่วมและเป็นผู้สนับสนุนหลัก เพื่อผลักดันให้เกิดการยกระดับเส้นทางเชื่อมโยงชายฝั่งทะเลของ 3 ประเทศ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม เพื่อนำไปสู่การทำตลาดในรูปแบบ 1 Market 3 Destinationนอกจากเส้นทางแห่งนี้ จะเป็นเส้นทางเศรษฐกิจสมัยใหม่แล้ว เส้นทางดังกล่าว ยังเป็นเส้นทางที่มีเสน่ห์ เพราะยังคงมีธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมถึงยังมีจุดขายต่างๆอีกมากมายที่ยังคงความบริสุทธิ์ ดังนั้น การเกิดขึ้นของความร่วมมือ เพื่อผลักดันการเดินเรือบนเส้นทาง CVTEC ในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสที่สำคัญอันยิ่งใหญ่ ที่พวกเราทุกคน ณ ที่ประชุมแห่งนี้ จะรวมกันผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นผลสำเร็จ 

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การหารือร่วมกันของ 3 ฝ่ายระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย ประเทศกัมพูชาและประเทศเวียดนาม / โดยสิ่งสำคัญคือการหาแนวทางในการผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศบนเส้นทางเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจกัมพูชา เวียดนาม และไทย หรือ CVTEC ให้เกิดขึ้นบนเส้นทางเชื่อมโยง ระหว่างหมู่เกาะจังหวัดตราด ประเทศไทย จังหวัดพระสีหนุประเทศกัมพูชา และจังหวัดเกียงยาง (เกาะฟูก๊วก) ประเทศเวียดนามโดยการประชุมที่ผ่านมา ตัวแทนของภาครัฐและเอกชน จากทั้ง 3 ประเทศ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ร่วมกัน / เพื่อร่วมกันส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมไมซ์ บนเส้นทางเชื่อมโยงดังกล่าวโดยเฉพาะการท่องเที่ยวและไมซ์ เพื่อดึงดูดให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริมการทำตลาดร่วมกัน บนเส้นทาง CVTEC / ภายใต้รูปแบบ “1 Market 3 Destination” และเพื่อเป็นการต่อยอดแผนความร่วมมือดังกล่าว การประชุมครั้งนี้ จึงได้จัดทำแผนเพื่อส่งเสริมเส้นทางพัฒนาการท่องเที่ยวและไมซ์ เส้นทางทางน้ำเชื่อมโยงหมู่เกาะทะเลตราดของประเทศไทย กับหมู่เกาะประเทศเพื่อนบ้านในประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมโดยวันนี้ และยินดีที่มีภาคีจากภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากประเทศไทย ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม เพื่อมาเข้าร่วมประชุมหารือผ่านเวทีประชุมนานาชาติ ในการหาแนวทางเพื่อผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศ / CVTEC ในครั้งนี้ โดยทางจังหวัดพร้อมสนับสนุนและผลักดันเต็มที

ขณะที่นายอภิชัย สมบูรณ์ปกรณ์ รองผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวว่าการประชุมนานาชาติเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจระหว่างประเทศกัมพูชาเวียดนาม ไทยหรือ CVTEC (Cambodia Vietnam Thailand Economic Corridor Coopcration Conference 2024 ที่มีผู้บริหารจากทั้ง 3 ประเทศ ไทย กัมพูชา เวียดนาม ได้มีโอกาสร่วมกันประชุมผลักดันให้เกิดการเดินเรือเชื่อมโยงชายฝั่งทะเล 3ประเทศ ไทย กัมพูชา เวียดนาม ขึ้นนั้นจากมุมมองของทีเส็บมองว่า จังหวัดในภาคตะวันออกของไทยจากท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางมาลงสนามบินอู่ตะเภา มีความต้องการทีทจะเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดตราดที่อ.เกาะช้าง อ.เกาะกูด และต้องการเดินทางไปยังเกาะกง,จ.พระสีหนุวิลล์ กรุงเกป และกัมปอด ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งเกาะรง และเกาะจ้าว และใน 3 จังหวัดเวียตนามตอนใต้ทั้งโดยมีจังหวัดคะเมา 

เป็นตัวแทนของ 2 จังหวัด ซี่งในส่วนของทีเส็บมองว่าประเทศไทยมีความพร้อมและหากสามารถผลักดันทำให้เกิดขึ้นได้จะยิ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายไป-กลับของนักท่องเที่ยวจากพัทยา สู่แหลมฉบัง และมาตราด ผ่านไปยังสีหนุวิลล์ และเข้าไปยังเกาะฟูก๊วก และจากเวียตนามสู่สีหนุวิลล์แล้วมาตราดสู่จังหวัดภาคตะวันออกของไทย ทั้งนี้จะยังสามารถเชื่อมโยงในเรื่องการขนส่งสินค้านอกเหนือจากนักท่องเที่ยวด้วย 

ด้านนางวิยะดา ซวง รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ตราด กล่าวว่า เส้นทางเดินเรือท่องเที่ยวสายนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เห็นจากทดสอบด้วยการเดินเรือจากกัมพูชามาที่ท่าเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่ และผ่านขั้นตอนทางศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง และการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมประชุม ซึ่งพบว่า ประสบความสำเร็จด้วยดีทแชะการเดินทางจากอำเภอคลองใหญ่สู่อำเภอเกาะกูด และอำเภอเกาะช้าง โดยใช้เรือโดยสารของบริษัทบุญศิริ และเรือโดยสารเสือดำโกนับเป็นมิติใหม่ทางการท่องเที่ยวทางน้ำ แต่การที่จะทำในเชิงธุรกิจนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีการทำการตลาดให้ดีและแก้ปัญกาด้านต่างๆเพื่อสร้างความพร้อม ทั้งนี้ จะมีการประชุมหารือแบบเดียวกันนี้ที่จังหวัดคะเมา ประเทศเวียตนาม ในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 และจะเปิดการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลสายนี้ในช่วงไฮซีซั่น ปี 2567 ก็คือมในเดือนพฤศิกายน 2567 นี้เช่นกัน 

สำหรับการจัดการประชุม CVTEC ครั้งต่อไป ทางจังหวัดคะเมาและจังหวัดเกียนยางจะเป็นเจ้าภาพในการจัดขึ้น ในเดือนสิงหาคม 2567