วันที่ 7 มิ.ย.2567 ที่กกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. แถลงภายหลังการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยประเด็นว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 วรรคหนึ่ง (3) มาตรา 41 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (3) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ และมีมติเดินหน้าเลือก สว.ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ต่อไป เพราะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยดูจากเหตุผลโดยรวมแล้ว 1. ศาลระบุว่า ยังไม่ปรากฏว่าจะเกิดความเสียหายร้ายแรงยากแก่การเยียวยาได้ในภายหลัง
2. เหตุผลในการรับคำร้อง ระบุว่า ยังไม่เหตุจำเป็นที่หลีกเลี่ยงได้ตามกฎหมายจนอยู่ในวิสัยที่จะเยียวยาในภายหลังไม่ได้ 3. รัฐธรรมนูญ มาตรา 132 เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญทุกฉบับได้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความชอบ ซึ่งพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ที่ใช้สำหรับการเลือก สว.ครั้งนี้ ก็ผ่านขั้นตอนนี้มาแล้ว และ 4. วันนี้ กกต.กำลังปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ออกโดยชอบด้วยรัฐสภา ซึ่งคือกฎหมายการเลือก สว.ฉบับนี้
“วันข้างหน้า ถ้ามีเหตุจำเป็นอันอาจหลีกเลี่ยงได้ กกต.คงใช้อำนาจตามหน้าที่ที่มี ในการแก้ไขปัญหานี้” นายแสวง กล่าว
นายแสวง กล่าวชี้แจงกระบวนการเลือกในวันที่ 9 มิ.ย. ว่า กรณีที่อำเภอหนึ่งมีผู้สมัครเพียงคนเดียว หรือกลุ่มเดียวหรือในวันเลือก บางกลุ่มไม่มารายงานตัวทั้งกลุ่ม หรือมีผู้สมัครถูกถอนชื่อ และอาจจะทำให้เหลือกลุ่มเดียวได้ แต่ที่ผ่านมาสังคมมองว่า กกต.ไปตัดสิทธิคนกลุ่มนี้ ทำให้ชาวบ้านเสียเงิน 2,500 บาท แล้วไม่ได้ใช้สิทธิ ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้ตัดสิทธิผู้สมัครกลุ่มนี้ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เราก็จะให้ทำการเลือกเหมือนเดิม ท่านต้องไปใช้สิทธิ ถ้าเกิน 5 คน ก็ต้องเลือกกันเองให้เหลือตามสิทธิที่จะเข้าไปในรอบที่ 2 เป็นการเลือกไขว้ แต่หากไม่มีกลุ่มมาเลือกก็ต้องถือว่าไม่มีคะแนน อย่างไรก็ตาม เราขอให้ท่านมาใช้สิทธิเพื่อจะได้นำสิทธินี้ไปใช้เป็นสิทธิในการร้องศาลอื่น ถ้าเห็นว่ามีหน่วยงานไหนที่จะให้สิทธิท่านได้ เราอยากช่วย แต่กฎหมายให้เราเดินได้แค่นี้
เลขาธิการกกต. กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการทำรูปแบบบัตรใหม่ นั้นมีเจตนาเพื่อคุ้มครองประโยชน์ผู้สมัคร เพราะบัตรรูปแบบเดิม เมื่อมีการรวมกลุ่ม 4-5 กลุ่มของสาย การลงคะแนนอาจทำให้เกิดบัตรเสียได้ทั้งกลุ่มได้ จึงต้องทำรูปแบบบัตรใหม่ เพื่อที่ว่าหากเกิดเหตุดังกล่าวแล้วจะทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด เสียเฉพาะคนในกลุมนั้น ส่วนเมื่อทำบัตรใหม่แล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องการบริหารจัดการ เพราะสำนักงานคิดไว้มากกว่าที่คนตั้งข้อสังเกต เรามีการอบรมในการดำเนินการ และก่อนวันเลือก 3 วัน ก็จะมีการแจกคู่มือสำหรับผู้สมัครได้แทรกเรื่องนี้ไปพร้อมเอกสารแนะนำตัว สว. ในวันเลือก สามารถนำเอกสารคู่มือเข้าไปด้วย ขณะเดียวกัน ผอ.การเลือก ก็จะแนะนำวิธีการเลือกในแต่ละชั้นอยู่แล้ว ดังนั้นอยากให้สบายใจ
นายแสวง กล่าวต่อว่า ในประเด็นฮั้ว การซื้อเสียง การจัดตั้งลงสมัคร สว. เราจะไปลงโทษคนจากความเห็นไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนไม่วาาเป็นผู้สมัคร หรือใคร เราอยากให้การเลือกมีความสุจริตเที่ยงธรรม เราไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่อง ฮั้ว จัดตั้ง ขอคะแนนกัน จริงๆ มีคนอยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งตนได้รับเรื่องร้องเรียนทุกวัน เช่น ใส่เสื้อสีเดียวกัน ถ่ายรูปร้านเดียวกัน ผิดหรือไม่ ก็ไม่ผิด แต่ต้องดูว่าทำเกินกว่าการใส่เสื้อสีเดียวกันหรือไม่ เราไม่นิ่งนอนใจ แต่ต้องรอการพิสูจน์เสียก่อน เราได้ดำเนินการตลอดเวลา จริงจังกับเรื่องนี้ มีคนตรวจสอบทุกพื้นที่
เลขาฯ กกต. กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องคุณสมบัติ และเอกสารประกอบ ยังมีความเข้าใจผิดในหลายเรื่อง ผอ.ที่รับสมัคร เราตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งผู้สมัครต้องรับรองตนเอง การลงกลุ่มไม่นับว่า เป็นเรื่องของคุณสมบัติ แต่เป็นเรื่องเอกสารประกอบ เพราะเราไม่สามารถวินิจฉัยได้ทันทีว่าอยู่กลุ่มไหน กฎหมายจึงให้รับรองให้สมัคร ยังไม่ได้เป็นการคัดกรอง ให้แค่ประชาชนรับรอง ดังนั้นเรื่องนี้ต้องแยกออกจากเรื่องคุณสมบัติ แต่หากทำผิดแจ้งเอกสารเท็จทั้งคุณสมบัติต้องห้าม และเอกสารประกอบ เราสามารถลงโทษได้ แต่ถ้าเขาบอกความจริง ไม่ใช่เอกสารเท็จ เช่น เป็น อสม. ไม่ได้แจ้งเท็จ เพราะเป็น อสม. แต่อาจจะมีมุมมองว่า ตัวเองสามารถลงกลุ่มนี้ได้ แต่ไม่ใช่คุณสมบัติ ให้แยกกัน วันที่สมัครเราไม่ได้ไปก้าวก่ายการรับรองของผู้สมัคร และผู้รับรอง คุณรับรองกลุ่มไหนก็จะได้ลงกลุ่มนั้น ป้องกันปัญหาการสับหลีกคำแนะนำให้คนไปลงสมัครกลุ่มที่มีคนน้อย
สำหรับการสังเกตการณ์เลือก สว.ได้แจ้งไปยังสถานที่เลือกตั้งระดับอำเภอ จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหอประชุม ทราบว่า มีการจัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับการสังเกตการณ์แล้ว