วันที่ 7 มิ.ย.67 เมื่อเวลา 12.35 น.  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2567 ว่า ในที่ประชุมได้พูดคุยถึงปัญหาของประเทศชาติ โดยเฉพาะปัญหาที่ลงลึกในแต่ละกระทรวงเป็นครั้งแรก จึงเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ปัญหาถูกหยิบยกขึ้นมาพูด โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จำนวนมากมานั่งพูดคุยหยิบยกปัญหามาคุยกัน เพราะปัญหาแต่ละอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ในกระทรวง ทบวง กรม นั้นๆ อย่างเดียว ต้องอาศัยการทำงานข้ามระหว่างกระทรวงด้วย ดังนั้น จะมีการประชุมในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะสามารถลงในรายละเอียดและมานั่งพูดคุยกันได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้สั่งการในที่ประชุมเรื่องของการสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มาพูดถึงนโยบายหลัก แต่พูดถึงปัญหาแต่ละเรื่องที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก ทั้งปัญหาสังคม การเพิ่มรายได้ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ การปรับปรุงระบบราชการและบุคลากร เรื่องสวัสดิการข้าราชการ เช่น เรื่องหนี้ข้าราชการ ถ้ามีปัญหาถูกฟ้องล้มละลายจะต้องออกจากราชการ แต่ถ้าไม่ได้มาจากการกระทำที่ประพฤติผิด ทุจริตหรือทำมิชอบ ควรต้องแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเขา เพราะไม่เฉพาะที่ต้องออกจากราชการ แต่ครอบครัวที่มาค้ำประกันต้องล้มละลายไปด้วย ถือว่า ไม่แฟร์กับเขา ทำให้ครอบครัวมีปัญหาทั้งที่เหตุการณ์เศรษฐกิจอาจไม่ใช่ความผิดของคู่สมรสหรือตัวข้าราชการ แต่เป็นวิกฤตในขณะนั้น เช่น กรณีโควิด-19 ที่ประชุมจึงพูดคุยและมีข้อเสนอแนะเพื่อนำไปแก้ไข

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขยังมีการหารือเรื่องสวัสดิการบ้านพักพยาบาลบ้าง เช่นเดียวบ้านพักตำรวจชั้นผู้น้อย หรือทหาร ซึ่งเรายินดี ไม่มีปัญหา แต่เรื่องนี้ต้องทำในระยะยาว 5 ปี 10 ปี และใช้งบประมาณมาก เพราะพยาบาลมีกว่าแสนคน แต่เราต้องดูแล เพราะเป็นภาคส่วนที่มีความต้องการสูง มีเลือดไหลออกไปอยู่ในภาคเอกชนค่อนข้างมากหรือบางส่วนไปต่างประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญ

ขณะที่เรื่องของแผนที่วันแมป ที่มีปัญหาข้ามกระทรวง ได้มาพูดคุยกัน เพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหา ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอเรื่องการตัดต่อพืชจีเอ็มโอถั่วเหลือง หรือพันธุ์พืชหลายอย่างที่นำเข้ามา เพิ่มปริมาณผลผลิตในการบริโภค แต่พืชในประเทศยังไม่เป็นจีเอ็มโอ ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของเราสู้ไม่ได้ ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ต้องมาพูดคุยกัน