"แป้ง นาโหนด" นอนคุกคืนแรกไม่เครียด แต่มีเพียงอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คาดภูมิแพ้อากาศ จ่อรับโทษเพิ่ม หลังหลบหนีจากโรงพยาบาลเมื่อครั้งก่อน "กรมราชทัณฑ์" การวางมาตรการเข้ม "แป้ง นาโหนด" แจ้งแนวทางปฏิบัติตัว แยกการควบคุมอย่างน้อย 5 วัน เพื่อเฝ้าระวังโรคโควิด 19

 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.67 นพ.สมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ และในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีที่ กรมราชทัณฑ์ ควบคุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ไปไว้ในเรือนจำกลางบางขวางว่า หลังจากเข้าห้องกักโรคโควิด-19 คืนแรกยังมีอาการปกติ กระทั่งเวลา 20.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. เจ้าตัวมีอาการคัดจมูก คาดว่าน่าจะเป็นภูมิแพ้อากาศ พยาบาลประจำเรือนจำฯ ได้เข้าไปดูอาการและนำยาลดอาการแก้แพ้ไปให้ทานเรียบร้อยแล้ว ทำให้เมื่อคืนนี้ นายเชาวลิตนอนหลับสบายจนถึงเช้าและตื่นมาทานอาหารได้ปกติ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ในช่วงกระบวนการรับตัว ตรวจร่างกายผู้ต้องขังเข้าใหม่นั้น นายเชาวลิตมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีและมีสุขภาพจิตที่ดี ไม่พบอาการเซื่องซึม


 โดย นายเชาวลิตยังอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 คนเดียวภายในห้อง และไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะเชื้อไวรัสอาจแพร่กระจาย ซึ่งในส่วนของการรักษาความปลอดภัยในห้องกักโรคเรือนจำกลางบางขวาง มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดคอยดูติดตามตลอด 24 ชม. รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้าสังเกตอาการและพฤติกรรม โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะไม่สามารถเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องขังได้ เว้นแต่ผู้ต้องขังมีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานว่า เจ้าตัวได้ร้องขอสิ่งใด อีกทั้งภายในห้องกักโรค จะไม่มีหนังสือ หรือโทรทัศน์


 ในส่วนของการเข้าเยี่ยมของทนายความและญาติของผู้ต้องขังนั้น แม้ผู้ต้องขังจะอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 แต่ในส่วนของทนายความ สามารถเข้าเยี่ยมได้ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) ทางแอปพลิเคชันไลน์ ขณะที่กรณีของญาติผู้ต้องขังจะต้องรอให้ครบกำหนดการกักโรค เพราะหากให้ญาติเข้ามาอาจเกิดการแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ทุกเรือนจำจะต้องดำเนินการในลักษณะนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ในกรณีของนายเชาวลิต ทางเรือนจำได้มีการกักโรคโควิด-19 ลดเหลือเพียง 5 วัน และสังเกตอาการอีก 5 วัน รวมเป็นทั้งสิ้น 10 วัน ดังนั้นกรณีที่ญาติผู้ต้องขังจะเข้าเยี่ยมนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีอยู่ใน 10 รายชื่อ ตามที่ผู้ต้องขังระบุไว้ คาดว่าภายในวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะดำเนินการขอ 10 รายชื่อ จากผู้ต้องขังได้ทันที


 นพ.สมภพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเรือนจำกลางบางขวางยังไม่ได้รับแจ้งหรือประสานงานจากทนายความของนายเชาวลิตว่าจะเดินทางเข้าพบลูกความของตัวเองเมื่อใด อีกทั้งยังต้องรอผลการสอบสวนทางวินัยจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชว่าจะมีการลงโทษทางวินัยกรณีที่มีการหลบหนีออกจากสถานที่คุมขัง (รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช) เป็นจำนวนระยะเวลากี่เดือนหรือกี่วัน และถ้าทราบผลแล้ว ก็จะนำตัวไปคุมขังยังแดนขังของเรือนจำบางขวาง ตามดุลพินิจของ นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งโทษทางวินัยมี 2 กรณี คือ 1.การคุมขังเดี่ยว และ 2.ตัดการเยี่ยมญาติ ดังนั้นหากคณะกรรมการฯ มีการลงโทษทางวินัยนายเชาวลิตจำนวน 3 เดือน ก็จะมีผลต่อการส่งไปคุมขังที่แดนขังตามการพิจารณาของ ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง จำนวน 3 เดือนเช่นกัน


  ส่วนเรื่องการวางมาตรการความปลอดภัยของทางเรือนจำฯ ขอให้ทางญาติไม่ต้องเป็นกังวล กรมราชทัณฑ์ทำตามมาตรฐานการดูแลผู้ต้องขัง พร้อมยอมรับว่าห่วงการสร้างสถานการณ์ของนายเชาวลิต เพราะเจ้าตัวเคยมีพฤติการณ์การหลบหนีออกจากสถานที่คุมขังมาก่อน แต่เราก็มีข้อมูลที่ชัดเจนพอสมควร และต้องรู้เท่าทันเขา รวมถึงจะต้องมีการควบคุมที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น.


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กรมราชทัณฑ์ออกหนังสือแจงการวางมาตรการเข้ม ควบคุม "เสี่ยแป้ง นาโหนด" กรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "แป้ง นาโหนด" ผู้ต้องขังคดีความผิดฐานปล้นทรัพย์ ความผิดต่อเสรีภาพ พรบ.อาวุธปืน กำหนดโทษรวม 21 ปี 3 เดือน 25 วัน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งถูกย้ายพฤติการณ์มาจากเรือนจำกลางพัทลุง เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2566 เนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพล


 ต่อมาก่อเหตุหลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ขณะรักษาตัวอยู่ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2566 รวมระยะเวลา 222 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวนายเชาวลิตมาอย่างต่อเนื่อง ต่อมาทางการไทยได้รับการประสานจากทางการอินโดนีเซีย ยืนยันสามารถจับกุมตัวได้ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา


 กระทั่งวันที่ 4 มิ.ย. 2567 ทางการอินโดนีเซียส่งตัว นายเชาวลิต กลับประเทศไทย และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามขั้นตอน ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น


 กรมราชทัณฑ์ ได้ส่งตัว นายเชาวลิต ไปควบคุมตัวที่เรือนจำกลางบางขวาง เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังที่มีประวัติหลบหนี และคดีมีกำหนดโทษสูง ซึ่งต้องดำเนินการควบคุมภายในเรือนจำความมั่นคงสูง ซึ่ง เรือนจำกลางบางขวาง ได้รับตัว นายเชาวลิต ในวันที่ 5 มิ.ย. 2567


 โดยมีมาตรการการควบคุม ผู้ต้องขัง เป็นไปตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการตรวจร่างกายผู้ต้องขังเข้าใหม่และผู้ต้องขังเข้า - ออกเรือนจำ พ.ศ. 2561 และดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องว่า เป็นบุคคลตามชื่อที่ปรากฏในหมายอาญา ได้แก่ ลายนิ้วมือ รูปถ่าย ลักษณะเฉพาะตัวบุคคลให้ถูกต้อง ตรวจสุขภาพ จัดการเรื่องทรัพย์สิน พร้อมแจ้งแนวทางปฏิบัติตัวขณะอยู่ภายในเรือนจำ และนำตัวไปควบคุม (กักโรค) หรือแยกการควบคุมอย่างน้อย 5 วัน เพื่อเฝ้าระวัง โรคโควิด19 ทั้งนี้ เรือนจำกลางบางขวาง จะดำเนินการตามมาตรการภายใต้กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป