จากกรณีที่ นายสายพินธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือช้าง อายุ 52 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์เบอร์ 12 ยิง น.ส.กำไรทอง ซึ่งออกมาปกป้องสามี คือนายบัญชา เนื่องจากมีปากเสียงกันก่อนจะถูก นายช้าง กลับไปเอาอาวุธปืนกลับมายิงใส่ จนให้ น.ส.กำไรทอง เสียชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนั้นยังมีแม่ค้าและชาวบ้านอีกสองคน ที่ถูกลูกหลงจากคมกระสุนที่นายช้าง ยิงออกไป รวมบาดเจ็บอีกสองราย ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นที่หน้าร้านยาดอง กลางตลาดนัดบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังเกิดเหตุนายช้าง ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีและนำรถไปจอดไว้ที่บ้านพักก่อนจะขึ้นแท็กซี่หลับหนีออกจากพื้นที่ จนฝ่ายสืบสวนแกะลอยจนกระทั่งทราบว่านายช้าง หนีไปเช่าห้องพักกบดานที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี แต่เนื่องด้วยนายช้าง เป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุอุจฉกรรจ์และมีอาวุธปืน ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลัง ชุดปฏิบัติการพิเศษ ฉลามขาว พร้อมอาวุธครบมือไปปิดล้อมบุกจับกุมนายช้าง ได้ในที่สุดเมื่อช่วงบ่ายสามโมงกว่าของวานนี้ (5 มิ.ย.67) ก่อนจะคุมตัวกลับมาสอบปากคำที่ สภ.สำโรงใต้
นายช้าง ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้เสียชีวิตเขามาด่าตนก่อน ตนก็ไม่ได้รู้จักกับทางฝ่ายสามีภรรยาที่เป็นคู่กรณี แต่นั่งกินยาดองอยู่โต๊ะข้างๆกัน ตอนนั้นที่อยู่มีด้วยกัน 3 โต๊ะ อีกโต๊ะเป็นกลุ่มแต่เขาลุกไปแล้ว ตนเองนั่งดื่มอยู่คนเดียว ตนเองก็ไม่ทราบว่าที่ฝั่งคู่กรณีโมโหโต๊ะนั้นที่เสียงดัง แล้วมาลงที่ตนเองหรือเปล่า ตนเองนั่งเฉยๆไม่ได้อะไรกับใคร นายบัญชา จึงเดินมาที่โต๊ะของตนแล้วพูดใส่ว่า กูชักจะหมั่นไส้แล้วนะ เดี๋ยวจะงัดแม่ง ตนเองก็หันไปมองสักพัก ตรงนั้นก็ไม่มีใครแล้วนอกจากตนเคนเดียว ตนก็เลยคิดว่าเขาคงว่าเรา ตนก็เลยถามกลับว่า จะงัดใคร จะเอายังไง ซึ่งจังหวะตอนนั้นตนเองก็ควักปืนออกมาแล้ว ที่เอาปืนไปจ่อในตอนแรก เพราะแค่จะขู่เฉยๆ แล้วสักพักตนก็กลับ และแยกย้ายกันไป ตนเองขี่รถอกไปแปเดียว แล้วย้อนกลับมาใหม่ เพราะข้องใจว่ามาด่าทำไม มาถามจะเอาเรื่องอะไร กะว่าจะมาหานายบัญชา แต่นายบัญชาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เจอเพียงฝ่ายภรรยาคือ น.ส.กำไลทอง ซึ่งนั่งอยู่กับเพื่อนอีกคน น.ส.กำไลทอง ก็วิ่งเข้ามาหาตนและพยายามจะมาตบ จังหวะนั้นตนเองถือปืนอยู่ ก็บอกอย่าๆเข้ามา ตนไม่อยากทำผู้หญิง แล้วก็ด่าตนไม่หยุด จึงบันดาลโทสะ
จากนั้นช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจมีการคุมตัวนายช้าง ไปค้นจุดที่นำปืนไปซุกซ่อน ไว้ในป่าข้างทางไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบจุดที่นายช้าง ชี้ยืนยัน ก็พบอาวุธปืนของกลาง คือปืนลูกซองสั้น และยังพบปืนดัดแปลงขนาด .38 อีกหนึ่งกระบอก
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มิ.ย.67 พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ พร้อมด้วยหัวหน้างานสอบสวน พนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน พร้อมกำลังตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ คุมตัวนายช้าง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีการให้นายช้าง สวมใส่เสื้อเกราะและหมวกกันน็อกอย่างแน่หนาเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ต้องหาตามสิทธิ์ โดยพาผู้ต้องไปไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุคือ ร้านยาดองกลางตลาดนัด ท่ามกลางการวางกำลังรักษาความปลอดภัยป้องกันบุคคลไม่หวังดี เข้าทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา โดยใช้เวลาไม่นานก็ทำแผนเสร็จก่อนจะคุมตัวไปทำแผนอีกจุดคือ จุดที่ขึ้นรถแท็กซี่หลบหนี แถวเลียบด่วนบางหญ้าแพรก ก่อนคุมตัวเดินทางมาทำคุมขังไว้ที่โรงพัก สภ.สำโรงใต้ เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้
นายช้าง ผู้ก่อเหตุยอมรับว่า วันเกิดเหตุตนเองดื่มเหล้ายาดองไปเยอะพอสมควร จึงทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เนื่องจากถูกอีกฝ่ายด่าทอต่อว่าหลายอย่าง ส่วนที่ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตมองว่าผู้ตายพูดอะไรไม่ได้นั้น ตนเองยอมรับว่าคนตายพูดอะไรไม่ได้ แต่ก็อยากให้ไปถามพยานแวดล้อมในขณะเกิดเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนตัวเองนั้นน้อมรับความผิด และสำนึกผิดที่ลงมือทำไป
ด้านนางสาวประภาศิริ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ ได้กล่าวตอนนี้เขาก็ยอมรับทุกอย่างเขายอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่ได้หนี เขายอมจำนน เขาไม่ฝืนที่จะหนี เพราะเขารู้ว่าถ้าหนีไปไม่ได้มีอะไรดีขึ้น ลูกเมียอยู่ยังไง ถ้าเกิดเขาหนีแล้วโดนวิสามัญ มันก็เหมือนตายจากกัน เขาก็เลยจำยอมที่จะยอมรับทุกอย่างเพราะมันเป็นสิ่งที่เขาก่อขึ้นทุกอย่างจริงๆ หนูก็ยอมรับในข้อนี้ และถามว่าหนูอยากขอโทษคนที่ตายไปไหม หนูอยากขอโทษ หนูขอโทษแทนสามีหนูที่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแบบนี้ แต่คำขอโทษที่หนูขอโทษแทนแฟนเป็นร้อยครั้งพันครั้งมันก็ไม่สามารถให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ แม้กระทั่งคนบาดเจ็บหนูก็ขอโทษแต่หนูก็แค่อยากให้สังคมให้อภัยสามีตนสักนิดหนึ่ง หรือไม่ก็เห็นถึงบทเรียนราคาแพงที่ครอบครัวหนูก็ได้รับ เพราะเขาก็ต้องสูญเสียหัวหน้าครอบครัว เขาต้องสูญเสียพ่อ มองกลับกันหนูก็เข้าใจว่าคนตายเขาก็ต้องสูญเสียหัวหน้าครอบครัวเขาเหมือนกัน หนูพูดจากความเป็นจริง หนูไม่ได้เข้าข้างหรือปกป้องสามี ว่าสามีตนทำผิด แล้วคนต้องให้อภัยวันนี้ แต่บางทีถามเราสักนิดอย่าตัดสินเรา จากคำพูดคนอื่น ถามสักนิด คนจะทำผิดมันต้องมีเหตุให้ทำผิดไม่ใช่อยู่ดีๆจะเอาปืนไปยิงคนโดยที่ไม่มีสาเหตุเลยเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้หนูแก้ตัวอะไรแทนสามีหนูไม่ได้ หนูพูดอะไรต่อไม่ได้แล้ว ทุกอย่างมันก็จบตามกระบวนการตามกฎหมาย
พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ สำหรับคดีนี้ ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและใช้เวลารวม 18 ชั่วโมง ตามจับกุมตัวได้ ซึ่งผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้บาดเจ็บยังมีอีกรายที่ยังคงต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งตรงนี้จะได้ประสานผู้เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลและเยียวยาตามสิทธิ์ ส่วนมูลเหตุมาจากทั้งสองฝ่ายดื่มสุราจนเมาจนมีปากมีเสียงกัน ประกอบกับผู้ต้องหาซึ่งมีอาวุธปืนติดตัวไป จึงทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ นอกจากนี้ตนเองจะระดมกำลังและฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่กวาดล้างอาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด