ท่ามกลางวิกฤติสงครามที่ประเทศกำลังเผชิญหน้าจนเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า ณ ชั่วโมงนี้ ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มบุคคลได้ฉกฉวยผลประโยชน์ จากผลพวงของสงคราม จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวช็อกโลกกันไป
สำหรับ “ยูเครน” ประเทศที่กำลังผจญชะตากรรมของสงครามการสู้รบกับกองทัพรัสเซีย ที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 (พ.ศ. 2565) เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
โดยตลอดช่วงที่ผ่านมาของสงคราม ที่มีผู้ล้มตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนับแสนคนจากการสู้รบ ก็ได้มีกลุ่มบุคคลอาศัยร่างไร้วิญญาณ และผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บาดเจ็บหนัก จนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้นั้น ถูกนำไปทำเงินรายได้ให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าว ด้วยการลักลอบนำอวัยวะร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายจากการสู้รบดังกล่าว ไปจำหน่ายในตลาดมืดที่ค้าอวัยวะร่างกายมนุษย์ ก่อนนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้ต้องการ ตามสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลหลายแห่ง
ทั้งนี้ ข้อมูลข้างต้น ก็มีทั้งจากทางฟากของรัสเซีย โดยกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งอาจจะดูไม่น่าเชื่อถือ เพราะอยู่ในสถานะคู่สงครามกับยูเครน แต่ทว่า ก็มีข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ ในประเทศต่างๆ แม้กระทั่งองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในญี่ปุ่น ก็มีการจัดทำรายงานเผยแพร่ออกมาด้วยเช่นกัน ดังนั้น จะว่าไม่น่าเชื่อถือเสียเลยทีเดียวก็คงจะไม่ได้
นอกจากนี้ ก็ยังมีรายงานจากบรรดาสื่อมวลชนท้องถิ่นในยูเครนเอง ที่ออกมาแฉเปิดโปงเรื่องราวอันอื้อฉาวข้างต้นในประเทศของพวกเขา
ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย โดยนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกประจำกระทรวงฯ ระบุว่า รัฐบาลยูเครนของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กำลังปกปิดเรื่องราวการลักลอบค้าอวัยวะมนุษย์อย่างผิดกฎหมายในตลาดมืด ซึ่งเรื่องราวที่ปกปิดข้างต้น ก็มีทั้งที่เป็นระดับส่วนบุคคล รวมถึงกลุ่มบุคคลที่ทำกันเป็นขบวนการ
โฆษกฯ ซาคาโรวา ยังเปิดเผยโดยอ้างข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นในยูเครนด้วยว่า อวัยวะมนุษย์ที่มีการลักลอบค้าขายกันในยูเครนนั้น ก็มาจากทหารยูเครนที่เสียชีวิตไปแล้วจากการสู้รบ
โดยอวัยวะของทหารยูเครนที่เสียชีวิตไปแล้วข้างต้น และมีการลักลอบนำไปค้าขายกันนั้น ก็มีทั้งหัวใจ ไต และตับ เป็นต้น
ส่วนราคาของอวัยวะต่างๆ ที่ซื้อขายกันในตลาดมืด ก็เริ่มต้นกันที่ 5,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆกว่า 2แสนบาท)
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ยังระบุด้วยว่า ทางการของหลายประเทศในสหภาพยุโรป หรืออียู รวมถึงบรรดาประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ก็รับรู้ถึงเรื่องราวการค้าขายอวัยวะมนุษย์ของยูเครนอีกด้วย
นางซาคาโรวา ยังเผยอีกว่า ทางการยูเครนภายใต้การนำของประธานาธิบดีเซเลนสกี ยังได้ผ่านร่างกฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อการปลูกถ่ายอวัยวะมนุษย์โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมถึงมีการใช้มาตรการทางภาษี เช่น การยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามประมวลกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมหมายเลข หรือนัมเบอร์ 5601เมื่อปีที่แล้ว ก็ส่งผลให้การค้าการขายอวัยวะมนุษย์ในยูเครน “บูม” อีกด้วยต่างหาก
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ยังกล่าวอีกด้วยว่า อัตราการเสียชีวิตที่สูง และการสูญหายของทหารยูเครนไปเป็นจำนวนมาก นอกจากเป็นผลพวงของการสู้รบแล้ว ส่วนหนึ่งก็มาจากปัจจัยการค้าขายอวัยวะมนุษย์ของทางการยูเครนเองด้วย จากการที่ได้รับบาดเจ็บหนักไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แล้วถูกทำให้ตายเพื่อนำอวัยวะไปจำหน่าย
ส่วนในการรายงานของสื่อท้องถิ่นในยูเครน เช่น “สตรานา” ล่าสุด ก็ระบุว่า มีอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของยูเครน เข้าไปพัวพันกับการลักลอบค้าอวัยวะมนุษย์อันอื้อฉาวของยูเครนอีกด้วย
โดยอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของยูเครนรายนี้ ก็ใช้โรงพยาบาลหลายแห่งในยูเครน เป็นสถานที่แสวงผลประโยชน์ คือ ทำมาหากินกับอวัยวะมนุษย์ กับบรรดาลูกค้าต่างๆ
พร้อมกันนี้ “สตรานา” สื่อท้องถิ่นของยูเครน ยังรายงานด้วยว่า ทีมงานของอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของยูเครน ที่ในการจัดการกับอวัยวะมนุษย์เพื่อลักลอบการค้านั้น ก็มีทั้งระดับนายแพทย์ และเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลของคลินิกอันเลื่องชื่อในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ก็ยังมีอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งเบื้องต้นได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยแล้วจำนวน 11 ราย ด้วยกัน ที่ติดร่างแหของเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว ร่วมกับอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของยูเครน
“สตรานา” รายงานด้วยว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ หากศาลพิจารณาแล้วพบว่า มีความผิดจริง ก็จะมีความผิดเป็นคดีอาญา และจะต้องถูกจำคุกกันเป็นเวลา 12 ปี
นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นของยูเครน ยังรายงานอีกว่า จะต้องมีผู้ถูกจับกุมเพิ่มขึ้นอีก หากมีการสืบสวนสอบสวนขยายผล ซึ่งเบื้องต้นจากที่มีกระแสข่าวมา นอกจากโรงพยาบาล สถานพยาบาล ที่เป็นของรัฐแล้ว ก็ยังมีโรงพยาบาลของเอกชน รวมไปถึงระดับคลินิกเอกชน ก็อาจจะร่วมขบวนการลักลอบค้าอวัยวะมนุษย์ในยเครนด้วยเช่นกัน ด้วยผลประโยชน์ที่เป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาล หลังประเทศถูกจัดให้เป็นแหล่งซื้อขายอวัยวะมนุษย์ในตลาดมืดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกไปแล้ว
ว่ากันถึงเม็ดเงินของขบวนการลักลอบค้าอวัยวะมนุษย์ในตลาดมืดทั่วโลกโดยรวมนั้น ตามการประเมินประมาณการ ก็ระบุว่า เพิ่มจำนวนขึ้นในทุกๆ ปีไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 จนส่งผลให้ในแต่ละปีมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจนี้สูงถึงกว่า 840 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยก็ราวกว่า 3.08 – 6.24 หมื่นล้านบาท)